รู้จัก “One stock home” ผู้ชนะจากสิริ เวนเจอร์ส
ที่จะพาสตาร์ทอัพไทยเดินทางไกลไปซิลิคอน วัลเลย์

เบื่อไหมที่เวลาซื้อวัสดุก่อสร้างต้องเดินทางไกลไปที่ร้อนๆ แล้วถ้ามีวิธีการที่ง่ายกว่านั้นล่ะ?

พบกับ One Stock Home เว็บไซต์สำหรับสินค้าก่อสร้างออนไลน์ที่เป็นจุดนัดพบของเหล่าคนสร้างบ้าน และเป็นสตาร์ทอัพดาวรุ่งที่คว้าชัยชนะจากการแข่งขัน Pitching ของ สิริ เวนเจอร์ส ในงาน TechSauce Global Summit 2018 ที่มีผู้เข้าแข่งขันกว่า 20 ทีม 

จากการแข่งขัน Pitching ทั้งสองวัน อนวัช คิมหสวัสดิ์ หรือ เคี้ยว ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ One Stock Home คว้ารางวัลและโอกาสที่จะได้เดินทางสู่ซิลิคอน วัลเลย์ สหรัฐอเมริกา เพื่อไปพบกับนักลงทุนต่างชาติที่ประสบความสำเร็จและต่อยอดไปสู่การพัฒนาธุรกิจในอนาคตค่ะ จริงๆ แล้วผู้ชนะจากการแข่งขันครั้งนี้เป็นใคร มีที่มาที่ไปอย่างไร ติดตามได้จากบทสัมภาษณ์ของ CEO แห่ง One Stock Home ได้เลยค่ะ

จากความอยู่รอดสู่แรงบันดาลใจในการพัฒนาธุรกิจ  

การก่อตั้ง One Stock Home เกิดจากธุรกิจครอบครัวครับ คนที่มีไอเดียขึ้นมาคือ คุณพ่อ ไม่ใช่ตัวลูกๆ เพราะคุณพ่อเป็นคนมีวิสัยทัศน์ เพียงแต่ท่านไม่รู้วิธีการใช้นวัตกรรมบางอย่าง คนที่นำไอเดียของคุณพ่อมาต่อยอดจึงคือพี่สาวและผมเอง ตอนนั้นผมก็ยังทำงานบริษัท ก่อนจะค่อยๆ แบ่งเวลามาช่วยทำงานให้กับ One Stock Home เมื่อเราเห็นว่า ดีมานด์ด้านออนไลน์สูง แต่ไม่มีคนที่จะมาดูแลได้เต็มที่

แรงบันดาลใจที่ทำให้เกิด One Stock Home จริงๆ แล้วอาจจะต้องพูดว่าเป็นเรื่องของความอยู่รอด เพราะที่บ้านผมเองทำบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างมากว่า 40 ปี แต่เรามองเห็นว่าในอนาคตกลุ่ม Big Player จะเข้ามากินตลาดเดินของเรามากขึ้น ถ้าเราอยากสู้ไหว เราก็ต้องหาสิ่งใหม่ๆ เข้ามา ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีคนทำตลาดออนไลน์ One Stock Home ก็เลยเสนอตัวเข้ามาเป็น First Player ของตลาดนี้ครับ

SEO คืองานถนัดของ One Stock Home

ตอนนี้ One Stock Home โฟกัสตัวเว็บไซต์และเว็บโปรไฟล์เป็นหลัก ยังไม่ได้ขยับไปทำในส่วนของแอปพลิเคชัน เพราะว่าข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ รวมถึงเรารู้จักลูกค้าดีว่าส่วนใหญ่ยังใช้เว็บไซต์ในการเข้าถึงข้อมูล แต่งานด้านที่ One Stock Home ถนัดที่สุดอย่างหนึ่งก็คือการทำ SEO อย่างเป็นระบบ ลูกค้าส่วนใหญ่จะรู้จัก One Stock Home ผ่านการค้นหาในกูเกิ้ล ไม่ว่าลูกค้าต้องการเสิร์ชหาสินค้าอะไร เขาก็จะเสิร์ชเจอในเว็บไซต์ของ One Stock Home ครับ

ข้อมูลคือหนึ่งในสินค้าของ One Stock Home

ข้อมูลส่วนใหญ่ของที่ลูกค้าต้องการ คือ ข้อมูลเฉพาะเจาะจงของสินค้า เช่น สินค้าชนิดนี้ที่ต้องการจะเหมาะกับแบรนด์ของเขาไหมอย่างไร ซึ่งเราก็จะเก็บข้อมูลที่ลูกค้าค้นหาเอาไว้ในระบบข้อมูลของเรา และนำข้อมูลไปใช้ในการวิเคราะห์ Market Demand เพื่อให้โรงงานสามารถผลิตสินค้าออกมาตรงกับโจทย์ความต้องการของลูกค้าอีกด้วย และนับตั้งแต่จดทะเบียนก่อตั้งบริษัทมาอย่างเป็นทางการ ลูกค้าส่วนใหญ่ของ One Stock Home เป็น “ผู้รับเหมาก่อสร้าง” ทั้งระดับกลางและล่างซึ่งมีรายได้ต่อปี 100 ล้านบาทลงมา

2 ปีที่ผ่านมา One Stock Home ก้าวหน้าไปมากกว่าที่คิด

2 ปีที่ผ่านมา One Stock Home เจริญเติบโตดีและต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ SCB ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ได้ให้การช่วยเหลือค่อนข้างมาก  ปัจจุบันมียอดขายประมาณ 300 ล้านบาท มีการเติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 82 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้นภายในครึ่งปีนี้ One Stock Home ทำยอดขายได้เกือบจะได้ยอดขายเท่ากับปีที่แล้วทั้งปีครับ

“ทีม” ถือเป็นจุดแข็งของ One Stock Home

ในบริษัทของเราประกอบไปด้วยทีมคอมเมิร์ซ ทีมโอปอร์เรชัน ทีมดาต้า และทีมเทคโนโลยี รวมทั้งหมดเป็น 23 คน และเป็นคนรุ่นใหม่ทั้งหมด ทีมเทคโนโลยีของเราเป็นทีมที่เราคัดมาจากผู้ที่มีประสบการณ์ในการทำงานกับบริษัทข้ามชาติ เพื่อช่วยด้านคุณภาพของเทคโนโลยี ส่วนในด้านโอปอร์เรชันก็เป็นทีมที่มีประสบการณ์การขายวัสดุก่อสร้าง และคิดว่าหนึ่งในสาเหตุที่ One Stock Home ได้รับเลือกจาก สิริ เวนเจอร์ส ก็เป็นเพราะว่า “ทีม” ของเรา ทุกคนเป็นคนมีไอเดียด้าน Business Model ที่ดี มีประสบการณ์และมีแพสชันในการทำงานจริง

ความท้าทายของสตาร์ทอัพและจุดยืนของ One Stock Home ในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย

ความท้าทายของสตาร์ทอัพ คือ เรื่องของการทำธุรกิจที่ผู้คนชื่นชอบที่จะใช้ ในสหรัฐอเมริกาเองก็มีหลายธุรกิจที่ถูกมองว่าสุดท้ายจะไม่สามารถทำกำไรได้จริง แต่จริงๆ แล้วนั้นสตาร์ทอัพเหล่านั้นอาจจะมีแพลนที่สามารถทำกำไรได้ในอนาคตก็ได้ เพราะฉะนั้นการทำธุรกิจที่ทำให้คนยอมจ่ายในมูลค่าที่สามารถทำให้บริษัทอยู่ได้อย่างยั่งยืนเป็นโจทย์ที่ยากของการทำสตาร์ทอัพครับ

ผมเชื่อว่า One Stock Home จะช่วยวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยในด้าน Screen line process และในอนาคตจะช่วยให้ผู้ผลิตในวงการก่อสร้างมีนวัตกรรมใหม่ๆ มากขึ้น และใช้นวัตกรรมมาสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมหรือ Eco-friendly มากยิ่งขึ้น ทำให้วงการอสังหาริมทรัพย์ก้าวไปข้างหน้าอีกขั้น

สำหรับผู้รับเหมาและผู้บริโภค แม้ว่าเราจะมีฐานลูกค้าที่เป็นผู้รับเหมาค่อนข้างเยอะ แต่เรามีสิ่งที่เรียกว่า Empathy ให้กับเจ้าของบ้าน ในเฟสถัดไปเราวางแผนไว้ว่าจะนำผู้รับเหมามาบวกเข้ากับผลิตภัณฑ์ของ และสร้างเป็นแพคเกจสำหรับการก่อสร้างบ้าน เพื่อให้ผู้ใช้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม

การเข้ามาของสิริ เวนเจอร์สและการเดินทางสู่ซิลิคอน วัลเลย์

ผมคิดว่าการเข้ามาช่วยของ สิริ เวนเจอร์ส น่าจะสามารถช่วยด้าน Eco-system ของวงการได้ เนื่องจาก สิริ เวนเจอร์ส มาจากบริษัทแสนสิริซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เป็น Developer อยู่แล้ว ความรู้ที่ สิริ เวนเจอร์ส มีอยุ่ น่าจะช่วยส่งเสริมให้สตาร์ทอัพค้นพบแนวทางการทำงานที่สามารถตอบกับ Business Model จริงได้

สำหรับการเตรียมตัวไปซิลิคอน วัลเลย์ก็คงจะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Business Model ที่สามารถนำไป Pitch ให้เหมาะสมกับธุรกิจในสหรัฐอเมริกาได้ สำหรับผมงานนี้ถือเป็นเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่ สิริ เวนเจอร์ส ได้จัดมาให้ครับ

สำหรับการเดินทางเป็นตัวแทนสตาร์ทอัพไทยไป Pitch งานกับนักลงทุนระดับโลกถึงซิลิคอน วัลเลย์กับ สิริ เวนเจอร์สครั้งนี้พื่อศึกษาประสบการณ์จากเหล่าสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จมากมายในวงการของ One Stock Home จะน่าตื่นตาตื่นใจแค่ไหน

โปรดติดตามและเป็นกำลังใจให้ทีม One Stock Home ได้ที่ เฟสบุ๊ก Sansiri PLC และ Siri Ventures ค่ะ

Related Articles

ยุคทอง สตาร์ทอัพ หมวดสุขภาพ เมื่อความต้องการยังมีไม่สิ้นสุด

สตาร์ทอัพ เป็นบิสสิเนสโมเดลที่เหมาะกับทุกประเทศและยั่งยืนจริงหรือไม่? แต่ถ้าหากเราวัดความสำเร็จจากตัวเลขแล้ว หมวดหนึ่งที่แสดงได้ถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอดก็ไม่พ้นเรื่องของสุขภาพ ซึ่งเชื่อว่าไม่มีการสิ้นสุดต่อเมื่อมนุษย์ยังคงดำเนินชีวิตอยู่บนโลกใบนี้

10 ธุรกิจสตาร์ทอัพน่าจับตามอง ทั้งไทยและต่างประเทศ

2017 ปีที่โลกจะหมุนเร็วกว่าเดิม ด้วยเครื่องมือที่จะทำให้โปรเจ็คท์ของนักธุรกิจรุ่นใหม่เป็นจริง ที่เรียกว่า ‘สตาร์ทอัพ’ แสนสิริ บล็อก แนะนำ 10 ธุรกิจสตาร์ทอัพที่กำลังมาแรงในปีนี้ ทำความเข้าใจไอเดียของพวกเขา เพื่อก้าวให้ทันการตลาดยุคใหม่ไปพร้อมกัน

สตาร์ทอัพ: เข้าใจคนรุ่นใหม่ จากโมเดลธุรกิจแบบก้าวกระโดด

จากทัศนคติที่อยากประสบความสำเร็จเร็ว และไม่อยากทำงานตลอดเวลาของคนรุ่นใหม่ ทำให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ที่กำลังถูกพูดถึงไปทั่วโลก เรียกว่า ‘สตาร์ทอัพ’ (Startup)