แสงแดด…ภัยเงียบที่ไม่ได้ทำร้าย
แค่ผิว แต่ยังเป็นอันตราย
ต่อสุขภาพกายและใจ

ทุกคนรู้ไหมแสงแดดไม่ได้แค่ทำให้เราร้อน แต่ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนเรามากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสุขภาพกายหรือสุขภาพใจ แสงแดดไม่ได้ทำร้ายแค่ผิวพรรณหรือดวงตาเท่านั้น แต่แสงแดดยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจและยังทำให้เรามีความเครียดเพิ่มขึ้น รวมถึงอาจจะทำให้เราเป็นฮีทสโตรก หรือโรคลมแดดและโรคอื่นๆ ตามมาได้อีกด้วย

ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าโลกของเราร้อนมากขึ้น อากาศแปรปรวน สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ในโลกของเรามีชั้นโอโซนที่เป็นเกราะป้องกันตัวเราไม่ให้โดนแสงอาทิตย์มากเกินไป แต่เมื่อชั้นโอโซนเป็นรู ทำให้อากาศในโลกร้อนขึ้นมากกว่าแต่ก่อน มนุษย์อย่างเราต้องโดนแสงแดดมากขึ้นเช่นกัน เพราะชั้นโอโซนไม่ได้ป้องกันแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าเมื่อก่อน ถึงแม้ว่ามนุษย์เราจะต้องการแสงแดดจากดวงอาทิตย์แต่หากโดนมากเกินไปก็เป็นอันตรายต่อชีวิตของเราได้เหมือนกัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแสงแดดถึงเป็นอันตรายกว่าที่เราคิด 

วันนี้ Mental Life by Chanisara จะพาทุกคนมาทำความเข้าใจอันตรายที่มากับแสงแดดที่เราอาจไม่คาดคิด ซึ่งส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของเรา อาจจะทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาไม่ว่าจะเป็นโรคทางผิวหนัง สายตา โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือโรคลมแดด ฯลฯ และเรามาดูกันว่าช่วงไหนที่เราไม่ควรจะอยู่กลางแดด รวมถึงมาบอกวิธีป้องกันตัวเองเมื่ออยู่ในสถานที่ที่แดดร้อนจัดกันค่ะ

Sunlight

ภัยอันตรายที่มากับแสงแดด

แสงแดดเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้มนุษย์ทุกคนสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้และแสงแดดมีประโยชน์กับเราทุกคน แต่ถ้าหากโดนมากเกินไปก็สามารถเป็นภัยอันตรายกับเราได้เหมือนกัน แสงแดดทำลายทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของเรา ทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา ทำร้ายทั้งผิวพรรณ ดวงตา ทำให้เกิดความเครียด ทำให้ภูมิคุ้มกันของเราลดลง ทำให้เราเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง โรคลมแดด ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตของเราได้ อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจด้วยนะคะ ถึงแม้การเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นจากแสงแดดโดยตรง แต่การโดนแสงแดดมากเกินไป ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่การเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ ทุกคนคงสงสัยใช่ไหมคะแสงแดดทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้อย่างไร เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ 

การโดนแสงแดดมากเกินไป สามารถทำให้เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจได้อย่างไร 

รังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่มาจากแสงแดด หากร่างกายได้รับมากเกินไป ร่างกายเกิดความเครียด หรือที่เรียกว่า “ความเครียดออกซิเดชัน” คือ ภาวะที่ร่างกายมีอนุมูลอิสระเยอะเกินไป จนทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อถูกทำลายเร็วขึ้น ซึ่งทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตามมาได้ เพราะ “ความเครียดออกซิเดชัน” จะทำให้เซลล์บุผิวผนังด้านในทำงานได้ไม่เหมือนเดิม ส่งผลให้หลอดเลือดทำงานผิดปกติ เนื่องจากเซลล์บุผนังหลอดเลือดมีหน้าที่หด-ขยาย หลอดเลือดและป้องกันการอักเสบและการเกิดลิ่มเลือด สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจได้นั่นเองค่ะ 

รังสีอัลตราไวโอเลตทำร้ายผิวและดวงตา

แสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลตที่ทำร้ายผิวซึ่งทำให้เกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะรังสี  UVA  และ UVB ไม่ว่าจะเป็น ทำให้เกิดผิวไหม้ ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ แสงแดดทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ และจากการศึกษาวิจัยพบว่า 90% ของผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนังเกิดขึ้นจากแสงแดด นอกจากนี้แสงแดดยังทำลายสุขภาพตา ทำให้เกิดโรคต้อกระจก และจอประสาทตาเสื่อมได้อีกด้วยค่ะ

ฮีสโตรก “โรค” ที่มากับแสงแดด 

โรคฮีสโตรก หรือ โรคลมแดด เกิดจากการที่อากาศร้อนเกินไปจนร่างกายไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิในร่างกายได้ ส่งผลให้ร่างกายสูญเสียการควบคุมระบบต่างๆ ในร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ถ้ามีอาการรุนแรงอาจมีอาการหัวใจเต้นผิดปกติเป็น ลมชัก หรืออาจจะหมดสติได้ ดังนั้นถ้าแดดร้อนจัดไม่ควรอยู่กลางแดดกันนะคะทุกคน 

“แสงแดด” ส่งผลต่อสุขภาพใจ

อากาศร้อนก็มีผลกระทบต่อสุขภาพใจของเราเป็นอย่างมาก เพราะหากแดดร้อนมากก็จะเป็นตัวกระตุ้นทำให้เราเกิดความเครียดเพิ่มขึ้น หงุดหงิดง่าย อารมณ์ไม่ค่อยดี อาจจะทำให้ใจร้อนเพิ่มขึ้นได้เหมือนกัน ดังนั้นเราต้องรู้ทันอารมณ์ของตัวเองเพื่อจะได้จัดการความเครียดของตัวเองได้อย่างเหมาะสม ซึ่งสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า การที่มีอากาศร้อน ก็มีผลต่อสุขภาพใจของเราได้เหมือนกันค่ะ สภาพอากาศอาจเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้แต่สิ่งที่เราควบคุมได้คือรู้เท่าทันอารมณ์ของเราค่ะ

ช่วงเวลาไหนที่เราไม่ควรอยู่กลางแดด

ทุกคนรู้ไหมคะ เวลาไหนที่เราไม่ควรโดนแดดมากที่สุด หลายตนอาจจะคิดว่าช่วงเวลาเที่ยงกันใช่ไหมล่ะค่ะ แต่แท้จริงแล้ว เราไม่ควรอยู่กลางแดด ตั้งแต่เวลา 10.00 น.-16.00 น. (ข้อมูลจากเว็บไซต์ drvsquare) เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีแสง UVA และ UVB มากที่สุด เป็นช่วงที่อันตรายต่อผิวมากที่สุดและส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดโรคร้ายแรงถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังได้ค่ะ

วิธีป้องกันตัวเองเมื่ออยู่ในสถานที่ที่แดดร้อนจัด 

ทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 30 นาที โดยมี SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป 

ครีมกันแดด เป็นเกราะป้องกันที่ดีสำหรับผิวของเรา จากฝ้า กละ จุดด่างดำที่เกิดจากแดด

ดื่มน้ำบ่อย ๆ

หากเราอยู่ในที่ที่อากาศร้อน เราควรจะต้องดื่มน้ำมากๆ เพื่อทดแทนเหงื่อที่เสียไปแล้วไม่ทำให้ร่างกายขาดน้ำ 

สวมแว่นกันแดด

แสง UV จากดวงอาทิตย์สามารถทำร้ายตาเราได้ ดังนั้นเราควรเลือกแว่นกันแดดที่ป้องกัน แสง UVA UVC UVB ได้ 100% เพื่อป้องกันแสงแดดที่จะทำร้ายดวงตาซึ่งเป็นตัวการในการก่อให้เกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคต้อหรือจอประสาทเสื่อมนั่นเองค่ะ

สวมเสื้อคลุมกัน UV

เสื้อกัน UV เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่ป้องกันแสงแดดจากผิวที่หลายคนอาจจะหลงลืมไป

อันตรายจากแสงแดดเป็นอีกหนึ่งภัยเงียบที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป และอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพกายสุขภาพใจของเรา เราจึงจำเป็นต้องป้องกันตัวเองจากแสงแดดเพื่อไม่ให้เกิดโรคต่างๆ ตามมานั่นเองค่ะ


Source

link.springer.com

https://www.escardio.org/Journals/ 

https://drvsquare.com/knowledge/time-dangerous-sunlight/ 

https://health.kapook.com/view209072.html 

https://education.https://www.bangkokbiznews.com/environment/1085040nationalgeographic.org/resource/ozone-layer/ 

https://www.exta.co.th/care-health-summer/ 

https://www.eucerin.co.th/about-skin/basic-skin-knowledge 

https://drvsquare.com/knowledge/time-dangerous-sunlight/ 

https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/ 

https://www.thaihealth.or.th/ 

 

Related Articles

hug

“การกอด” การแสดงความรักที่เรียบง่าย ยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาร่างกาย

“การกอด” เป็นการแสดงความรักที่เรียบง่ายและแสนพิเศษ และยังเป็นยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาร่างกาย และฟื้นฟูจิตใจได้ ทุกคนคิดว่าการกอดสำคัญไหมคะ? การกอดเป็นการแสดงความรัก ให้ความอบอุ่นซึ่งกันและกัน ทำให้ผู้กอดและผู้ถูกโอบกอดรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นใจ เหมือนมีแสงอุ่นๆออกจากตัวของคนคนหนึ่งส่งต่อไปเพื่อโอบกอดหัวใจของใครอีกคน  ทุกคนรู้ไหมว่าการกอด นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตสุขภาพใจแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพกายของเราด้วย การกอดจึงเปรียบเสมือนยาวิเศษ เป็นภาษากายที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังที่ทำให้ทุกคนที่ได้รับการโอบกอดรู้สึกดีและยังบรรเทาอาการเกิดโรคต่างๆ ทางร่างกายได้อีกด้วย  ทุกคนคงจะแปลกใจกันใช่ไหมคะว่าแค่กอดจะเยียวยาร่างกายและจิตใจของเราได้จริงๆ หรอ ไม่ว่าจะเป็นความเครียดหรือความวิตกกังวล แต่ที่น่าแปลกใจ คือมีงานวิจัยหลายชิ้น

Inner Speech

เปลี่ยน “เสียงในหัว” เปิดประตูสู่การมีสุขภาพจิตที่ดี

เปลี่ยน “เสียงในหัว” ที่เราพูดกับตัวเองในใจ ให้เป็นเชิงบวก เพื่อสะท้อนความคิด เปิดประตูสู่การมีสุขภาพจิตที่ดี  ใครมีเสียงในหัวบ้างคะ หลายคนอาจจะสงสัยใช่ไหมละคะว่าเสียงในหัวคืออะไร?เสียงในหัว เสียงที่เราพูดกับตัวเองในใจ ซึ่งออกมาจากความคิดของเราเอง อาจจะเป็นความคิดที่เราพูดกับตัวเองทั้งในแง่บวกและในแง่ลบ ซึ่งเป็นเสียงที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและเป็นเรื่องปกติที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเสียงในหัวของตัวเองนะคะ บางคนมีเสียงในหัวตลอดเวลา บางคนมีเสียงในหัวเป็นครั้งเป็นคราว และบางคนไม่มีเสียงในหัวเลย แต่สามารถคิดเป็นภาพหรือความรู้สึกได้  หากเรามี “เสียงในหัว” เราสามารถฝึกเสียงในหัวตัวเอง

ChatGPT

ChatGPT AI ที่ไม่มีความรู้สึก แต่ปลอบโยนมนุษย์ให้สบายใจได้

ChatGPT พื้นที่ระบายความในใจโดยไม่ตัดสิน ถึงแม้ไม่มีความรู้สึก  แต่โอบกอดหัวใจทำให้มนุษย์รู้สึกดีขึ้นได้ ในปี 2025 ที่ AI เข้ามามีบทบาทในยุคปัจจุบัน AI ที่ทุกคนรู้จักอย่างแพร่หลายอย่าง ChatGPT ไม่ได้เป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยผู้คนหาคำตอบ แต่หลายคนใช้ ChatGPT เพื่อพูดคุยเยียวยาจิตใจ เพราะคุยและตอบคำถามได้ดี เหมือนเวลาเราไปปรึกษาใครสักคนจริงๆ ChatGPT จึงเป็นเพื่อนคุยที่สามารถทำให้เราลดความเครียด