ซัมเมอร์นี้ ชวนหาที่ไปพักไปผ่อน ออกไปทักทายแสงอาทิตย์ให้จิตใจสดใส ถ้ายังไม่รู้จะไปไหน ลองหนีร้อนไปผ่อนคลายท่ามกลางพื้นที่สีเขียวกันดูมั้ย?
แล้วที่ไหนจะเหมาะไปกว่า “สวนเขียวขจี” รอบกรุงเทพฯ ทั้งได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ได้เติมอากาศสดชื่นให้ร่างกาย แถมไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไกล เพราะ 5 สวนสวยที่เราคัดมาให้ อยู่ในกรุงเทพฯ นี่เอง ไม่ว่าจะสายชิลล์หรือสายลุย ก็ไปด้วยกันได้ทุกคน เพราะ 5 สวนนี้ไม่ได้มีดีแค่วิว แต่มีทั้งกิจกรรมให้ทำแบบจุกๆ ว่าแล้วก็มาปักหมุดเตรียมเที่ยวรับลมร้อนกันได้เลย
เหมือนเดินป่าที่อยู่ใจกลางกรุงฯ สวนเบญจกิติ
อยากมีฟีลเดินเล่นกลางป่า ชมพืชพรรณนานาชนิด แต่ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล มาที่สวนเบญจกิติ สวนที่มีคอนเซ็ปท์ ‘ป่าในเมือง’ ที่มีต้นไม้มากมาย ทั้งไม้แปลกหายาก และพืชท้องถิ่นของกรุงเทพฯ กว่า 300 ชนิด
เดินชมความเขียวให้อิ่มใจ แล้วมูฟไปเติมความชุ่มฉ่ำที่สวนน้ำสมัยใหม่ ฟินกับบรรยากาศริมน้ำที่มีทั้งบึงกว้าง น้ำพุ และดอกไม้สีสันสดใส ถือเป็นมุมที่ถ่ายรูปได้ไม่มีเบื่อ ไฮไลท์ของสวนเบญกิติคือทางเดิน Skywalk ยาว 2 กิโลเมตรที่เชื่อมไปถึงสวนลุมพินี เดินชมวิวรอบสวนได้สะดวกสบาย แถมยังมีทางจักรยานและลู่วิ่งให้เลือกใช้งานตามต้องการอีกด้วย ที่สำคัญสวนแห่งนี้ออกแบบตามหลัก Universal Design ผู้สูงวัยหรือผู้บกพร่องทางร่างกายก็ไม่ถูกจำกัด สามารถมาชื่นชมบรรยากาศป่าได้อย่างเต็มที่ทุกคน
• ที่ตั้ง: https://goo.gl/maps/benchakittipark
• เวลาเปิด-ปิด: 05.00 – 21.00 น. ทุกวัน
• การเดินทาง: BTS สถานีอโศก หรือ MRT สถานีสุขุมวิท จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 500 เมตร
• ที่จอดรถ: มีที่จอดรถ
ปั่นจักรยาน รับอากาศเฟรช ศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลนบางขุนเทียน
ป่าชายเลนได้ชื่อว่าเป็นปอดของเมือง ‘ศูนย์การเรียนรู้ป่าชายเลนบางขุนเทียน’ ขึ้นชื่อในเรื่องอากาศดี ลมเย็นสบาย เหมาะกับช่วงซัมเมอร์สุดๆ โดยริมชายทะเลบางขุนเทียนมีเส้นทางปั่นจักรยานบนสะพานยาวถึง 4 กิโลเมตร ชวนนักปั่นมาซึบซับธรรมชาติ ชมพืชพรรณป่าชายเลนตลอดทาง สำหรับใครที่ไม่มีจักรยาน ก็สามารถเช่าที่พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานครได้
ปั่นจักรยานเสร็จแล้ว ยังมีกิจกรรมพาล่องเรือชมวิวทะเลกรุงเทพฯ พร้อมสัมผัสวิถีความเป็นอยู่ชาวประมง และยังได้ลัดเลาะไปตามคลองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยต้นแสมและต้นโกงกางโอบล้อมเรือ เป็นอีกหนึ่งมุมของกรุงเทพฯ ที่อาจไม่เคยได้เห็น หน้าร้อนนี้อย่าพลาด! ต้องมาลองสัมผัสด้วยตัวเองดูสักครั้ง
• ที่ตั้ง: https://goo.gl/maps/BangKhunThianMangroveForest
• เวลาเปิด-ปิด: 06.00 – 18.00 น. ทุกวัน
• การเดินทาง: รถยนต์ส่วนตัว
• ที่จอดรถ: มีที่จอดรถ
ปิกนิกแบบฟีลเกาหลี อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ
อีกหนึ่งจุดเช็กอินยอดฮิตในยุคนี้ คือ ‘อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย’ สวนสาธารณะยุคใหม่ ดีไซน์โมเดิร์น ที่นี่มีทั้งโซนร่มรื่นและโซนกลางแจ้ง ทำกิจกรรมได้หลากหลาย นอกจากนี้ยังมีอาคารใต้สวนหลังคา (Green Roof) อาคารสุดเก๋ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้สวนลอยฟ้า ซึ่งมักเป็นสถานที่จัดงานนิทรรศการอยู่บ่อยๆ
อุทยาน 100 ปีจุฬาฯ ยังเป็นจุดปิกนิกยอดฮิต เพราะบรรยากาศแสนละมุน และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ อยู่มากมาย ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็ได้ภาพสวยแบบสายเกาสุดๆ นอกจากนี้ทางอุทยานยังอนุญาตให้พาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นได้ และยังมีมุมสนามเด็กเล่นรองรับอีกด้วย
• ที่ตั้ง: https://goo.gl/maps/CUCentenaryPark
• เวลาเปิด-ปิด: 06.00 – 20.00 น. ทุกวัน
• การเดินทาง:
1. BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ออกทางประตู 2 ไปยังซอยจุฬา 12 จากนั้นตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยจุฬา 9 เดินต่อไปอีกนิด จะเห็นอุทยานอยู่ตรงข้ามกับ I’m Park
2. MRT สถานีสามย่าน เดินไปที่ซอยจุฬา 42 แล้วเดินต่อไปเข้าซอยจุฬาฯ 9 จากนั้นเดินต่ออีกนิดจะเจออุทยาน
• ที่จอดรถ: มีที่จอดรถ
จัดเต็มทุก Activity กีฬาไหนก็สุด บึงหนองบอน
สำหรับสายกิจกรรม รักการหาทำสุดๆ ก็ต้องไม่พลาดไป ‘บึงหนองบอน’ ที่เที่ยวในกรุงเทพฯ ที่มีกิจกรรมทางน้ำจัดเต็มไม่แพ้ทื่อื่น ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือใบ พายเรือคายัค พายซัพบอร์ด หรือเล่นวินด์เซิร์ฟ ถ้าใครเล่นไม่เป็น ทางศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอนก็มีบริการสอนให้ด้วย เพียงแค่สมัครสมาชิกรายปีในราคาแสนสบายกระเป๋า
ในส่วนของกิจกรรมทางบกก็จัดเต็มไม่แพ้กัน มีให้เลือกทั้งเส้นทางปั่นจักรยาน สนามฟุตซอล สนามบาส ลานสเก็ตบอร์ด หรือใครอยากวิ่งออกกำลังกายก็ได้เช่นกัน ส่วนใครสายชิลล์ อยากนั่งปิกนิก เดินชมวิว ถ่ายรูปกับเรือใบให้เพื่อนทักว่าอยู่ที่ไหน ที่บึงหนองบอนก็มีโซนริมน้ำท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น ชมวิวกันไปจนพระอาทิตย์ตก รื่นรมย์แบบสุดๆ แถมยังสามารถพาน้องหมาน้องแมวมาเดินเล่นได้อีกด้วย
• ที่ตั้ง: https://goo.gl/maps/bungnongbon
• เวลาเปิด-ปิด: 08.30-18.00 น. ทุกวัน
• การเดินทาง: รถยนต์ส่วนตัว
• ที่จอดรถ: มีที่จอดรถ
Sansiri Backyard สัมผัสธรรมชาติ บรรยากาศฟาร์มออร์แกนิก
แหล่งท่องเที่ยวแบบชาวไร่ สไตล์ฟาร์มแบบนี้ ใครจะเชื่อว่าอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ! ‘Sansiri Backyard’ คอมมูนิตี้สีเขียวที่ช่วยให้เราใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ในสวนมีกิจกรรมหลากหลาย เหมาะกับทุกคน จะมาเที่ยวกับครอบครัว มาจอยกับแก๊งเพื่อน หรือมาเดทกับคนรัก ก็จะได้ความทรงจำดีๆ กลับไปแน่นอน
Sansiri Backyard แบ่งออกเป็น 2 โซน คือโซนเลี้ยงสัตว์และโซนปลูกผักผลไม้ ในโซนเลี้ยงสัตว์เราจะได้พบน้องๆ สัตว์ในฟาร์มที่น่ารักมากมาย ทั้งไก่ เป็ด แกะ แพะ และปลาทับทิม ซึ่งทั้งหมดเลี้ยงแบบธรรมชาติ เราสามารถเลือกให้อาหารน้องๆ ได้ด้วยนะ หรือใครอยากลองเก็บไข่ไก่ ไข่เป็ด ก็มีกิจกรรมให้ลองทำเช่นกัน ในโซนผักผลไม้ มีผลไม้หลายชนิดที่ตามฤดูกาล และยังมีแปลงผักสวนครัว Eat-able Garden ที่ปลูกแบบออร์แกนิก ปลอดสารเคมี 100% ชวนเด็กๆ มาเรียนรู้ หรือสามารถเก็บผักผลไม้ได้เช่นกัน
ทำกิจกรรมจนหนำใจ ก็ต้องหาของติดไม้ติดมือกลับบ้านสักหน่อย เราไปต่อที่ตลาดต้นไม้ Pongyo มีพรรณไม้เล็กใหญ่หลากชนิด หรือจะเลือกช้อปผักผลไม้ออร์แกนิก 100% ที่ร้าน Chul Farm x Patom Organic Farm ก็เพลินสุดๆ และสุดท้าย อย่าลืมเติมพลังก่อนกลับที่ Rong Sabieng ร้านอาหารสไตล์ไทยยุโรป ที่ใช้วัตถุดิบพรีเมียมจากฟาร์มออร์แกนิกหลายแห่ง รวมถึง Sansiri Backyard เองด้วย
• ที่ตั้ง: https://g.page/SansiriBackyard
• เวลาเปิด-ปิด: 9.00 – 18.00 น. ทุกวัน
• การเดินทาง: BTS สถานีอ่อนนุช ออกทางประตู 2 สามารถเรียกแอพ MuvMi มาส่งถึงที่ได้ในราคาประหยัด
• ที่จอดรถ: มีที่จอดรถ
สวนสวยใกล้ตัว สวนสีเขียวที่โครงการแสนสิริ
พื้นที่สีเขียว คือสิ่งจำเป็นในชีวิตที่ขาดไม่ได้ เป็นทั้งแหล่งผลิตอากาศบริสุทธิ์ สร้างความร่มรื่น เติมความสดชื่นให้ผู้คน ยิ่งไปกว่านั้นสีเขียวของต้นไม้ยังมีผลต่อสภาพจิตใจ เพราะช่วยสร้างความสบายใจ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และลดระดับความเครียดในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
เพราะเราเข้าใจในความสำคัญของพื้นที่สีเขียว จึงอยากสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สนับสนุนให้ผู้อยู่อาศัยของแสนสิริได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบง่ายๆ มีพลังใจจากการได้ชาร์จพลังงานดีๆ จากต้นไม้ร่มรื่น แต่ละโครงการของแสนสิริจึงถูกออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวมากเพียงพอ และพืชพรรณที่ถูกนำมาปลูก ได้คัดเลือกมาแล้วว่าเหมาะกับแหล่งที่อยู่อาศัย สภาพอากาศ และภูมิประเทศในแต่ละที่
สำหรับลูกบ้านโครงการแสนสิริ ซัมเมอร์นี้อาจไม่ต้องไปไหนไกล อยู่บ้านพักผ่อนใจ พร้อมได้สัมผัสพื้นที่สีเขียวและส่วนกลางครบครันก็สบายใจแบบสุดๆ