เงินเดือนไม่ถึงสองหมื่น
ก็กู้ซื้อบ้านได้! ผ่านง่ายกว่าที่คิด

การมีบ้านเป็นของตัวเอง คือรางวัลใหญ่ของชีวิตคนวัยทำงาน

แถมยิ่งเติบโตขึ้น ความจำเป็นที่ต้องมีบ้านก็เพิ่มขึ้นไปด้วย แต่หลายคนก็เกิดคำถามว่า มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ต้องรอให้ฐานเงินเดือนสูงก่อนรึเปล่าถึงจะซื้อบ้านได้? ที่จริงแล้วถึงจะอยู่ในช่วงกำลังเติบโต มีเงินเดือนไม่ถึง 20,000 บาท ก็สามารถมีบ้านเพื่อเติมเต็มอนาคตของตัวเองได้!

ไม่ว่าจะเป็น First jobber หรือคนที่ฐานเงินเดือนยังไม่สูงมาก ทุกคนก็มีสิทธิ์กู้ซื้อบ้านผ่านได้ เพียงแค่ต้องวางแผนการเงินให้ดี ถ้าอยากรู้ว่าต้องเตรียมตัวยังไง ควรเลือกบ้านแบบไหน มาค่อยๆ เตรียมไปทีละสเต็ปด้วยกันเลย

รักษาประวัติการเงินให้ดี ไม่มีหนี้เครดิตบูโร

เงินเดือนไม่ถึงสองหมื่น ก็กู้ซื้อบ้านได้! ผ่านง่ายกว่าที่คิด

ไม่ว่าจะทำธุรกรรมประเภทไหน การมีเครดิตดีก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง ดังนั้น ใครที่กำลังวางแผนกู้ซื้อบ้าน ควรสร้างประวัติการเงินไว้ให้สวยงามตั้งแต่เนิ่นๆ เริ่มได้จากเรื่องพื้นฐานที่สุด คือการเดินบัญชีนั่นเอง ในช่วง 6 เดือนก่อนยื่นขอกู้ ควรมีเงินคงเหลือไว้ในบัญชีตลอดเวลา และควรมีรายรับเข้าบัญชีอย่างสม่ำเสมอ เพราะธนาคารจะขอดูการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน ถ้าเห็นว่ารายได้มั่นคงก็จะอนุมัติได้ง่ายขึ้น

จัดการเรื่องการเดินบัญชีเสร็จแล้ว ก็ต้องเคลียร์ประวัติหนี้สินให้เรียบร้อย โดยธนาคารจะตรวจสอบข้อมูล “เครดิตบูโร” ซึ่งก็คือหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และค่าผ่อนชำระต่างๆ ของเรา ธนาคารส่วนใหญ่จะเช็กเครดิตบูโรย้อนหลัง 2 ปี ควรชำระหนี้ให้ตรงเวลาและครบถ้วนทุกครั้ง ต้องระวังไม่ให้มีประวัติเบี้ยวหนี้ ชำระหนี้ช้า ชำระหนี้ไม่ครบ หรือติด Blacklist ไม่อย่างงั้นจะยิ่งอนุมัติผ่านยาก

ที่สำคัญ อย่าลืมปิดบัญชีหนี้อื่นๆ ให้หมดก่อนยื่นกู้ซื้อบ้าน เพราะหนี้เหล่านี้จะทำให้เราได้วงเงินกู้ต่ำลง และถึงแม้จะไม่เคยมีประวัติเบี้ยวหนี้มาก่อน แต่ถ้าเรามีหนี้เหลือต้องผ่อนชำระจำนวนมาก ธนาคารอาจจะประเมินว่าเราไม่สามารถแบ่งเงินมาจ่ายค่าสินเชื่อบ้านได้ จนอาจจะไม่อนุมัติให้กู้ในที่สุด

ต้องเช็กความสามารถในการกู้ รู้วงเงินที่จะได้

เงินเดือนไม่ถึงสองหมื่น ก็กู้ซื้อบ้านได้! ผ่านง่ายกว่าที่คิด

มาถึงขั้นตอนเตรียมเลือกบ้านของเรา แต่ก่อนจะตามหาบ้านที่ใช่ ต้องรู้ความสามารถในการกู้ของตัวเองและวงเงินกู้ซะก่อน เพราะถ้าเลือกบ้านที่ราคาแพงเกินความสามารถ ธนาคารมีแนวโน้มจะไม่อนุมัติ

1. ขั้นตอนแรก เรามาคำนวณหาความสามารถในการผ่อน ซึ่งธนาคารจะประเมินว่าสามารถผ่อนได้เป็นเงินจำนวน 40% ของรายได้ต่อเดือน (รายได้หลังหักภาระหนี้สินออกแล้ว)

สูตรคำนวณ: (เงินเดือน x 40%) – ภาระหนี้สิน = ความสามารถในการผ่อนบ้านต่อเดือน

สมมติว่าเราได้เงินเดือน 19,000 บาท และมีภาระหนี้สินอื่นๆ อยู่ 2,000 บาทต่อเดือน ธนาคารก็จะประเมินว่าเรามีความสามารถในการผ่อน 5,600 บาทต่อเดือนนั่นเอง

2. ขั้นตอนที่สอง ถึงเวลาคำนวณวงเงินกู้ที่เราน่าจะได้รับ เพื่อจะได้ใช้เป็นเกณฑ์ในการคัดเลือกบ้านให้อยู่ในงบของเรา

สูตรคำนวณ: (ความสามารถในการผ่อนต่อเดือน x 1,000,000) ÷ 7,000 = วงเงินกู้สูงสุดที่น่าจะได้

จากสูตรนี้ ถ้าเราได้เงินเดือน 19,000 บาท ธนาคารน่าจะอนุมัติวงเงินกู้ให้เราประมาณ 8 แสนบาท แต่เนื่องจากเงื่อนไขของแต่ละธนาคารไม่เหมือนกัน วงเงินที่ได้จริงก็อาจจะแตกต่างกันไปเล็กน้อย

เมื่อรู้ทั้งค่าผ่อนต่อเดือนและวงเงินกู้แล้ว เราก็จะเลือกบ้านได้ง่ายขึ้นจากเกณฑ์ราคา และยังช่วยให้วางแผนการเงินในอนาคตได้ สิ่งสำคัญคือต้องวางแผนว่าจะสามารถผ่อนชำระบ้านได้ครบทุกเดือน โดยที่ไม่เบียดเบียนค่าใช้จ่ายส่วนอื่นจนเกินไป

เลือกบ้านที่ชอบ ในงบที่ใช่

สิริ เพลส เมกาบางนา siri place megabangna

ส่วนใหญ่แล้ว บ้านที่ราคาเอื้อมถึงได้มักจะเป็นบ้านทาวน์โฮม ซึ่งหลายโครงการก็สะดวกสบาย และมีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยว นอกจากนี้ คอนโดมิเนียมก็ยังเป็นอีกตัวเลือกที่ดีไม่แพ้ทาวน์โฮม นอกจากเดินทางง่ายแล้ว ยังมีฟังก์ชั่นครับครัน

แน่นอนว่าตัวเลือกของทั้งทาวน์โฮมและคอนโดมีเยอะมาก แต่บางครั้งก็ละลานตาจนเลือกแทบไม่ถูก ถ้าไม่รู้จะเริ่มเลือกจากตรงไหน ลองเริ่มจากโครงการบ้าน ทาวน์โฮม และคอนโดจากแสนสิริ ในราคาเอื้อมถึงได้ง่ายกับระดับเงินเดือน ครบทั้งทำเลดีดี และการอยู่อาศัยคุณภาพในแบบแสนสิริ

สิริ เพลส ทาวน์โฮมดีไซน์โดดเด่นที่มาพร้อมฟังก์ชั่นครบครัน เริ่มเพียง 1.99 ล้าน*
อณาสิริ บ้านและทาวน์โฮมที่มาพร้อมกับความพอดี ออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์ครอบครัวยุคใหม่ เริ่ม 2.19 ล้าน*
ดีคอนโด คอนโดทำเลดี ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ เป็นทั้งอยู่อาศัยและพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์ เริ่มเพียง 1.59 ล้าน*
คอนโดมี คอนโดราคาเอื้อมถึงได้ง่าย ครบ จบในที่เดียว มอบทั้งพื้นที่ใช้สอยและเฟอร์นิเจอร์พร้อมใช้ เริ่มแค่ 990,000 บาท*
เฮย์ หัวหิน คอนโดใจกลางหัวหิน ดีไซน์เรียบง่ายแต่สดใสเหมาะกับการพักผ่อนอย่างแท้จริง เริ่ม 1.39 ล้าน*

ผู้กู้ร่วม ตัวช่วยดีๆ ที่ควรมองหาไว้

เงินเดือนไม่ถึงสองหมื่น ก็กู้ซื้อบ้านได้! ผ่านง่ายกว่าที่คิด sansiri home financial planner

ถ้าลองคิดคำนวณดูแล้ว บ้านที่เรามองหาอาจเกินงบไปหน่อย ลองมองหาตัวช่วยอย่าง ‘ผู้กู้ร่วม’ เพื่อเป็นผู้ที่จะมาช่วยเราจ่ายหนี้ค่าผ่อนบ้านนั่นเอง โดยสามารถมีผู้กู้ร่วมได้สูงสุด 2 คน การมีผู้กู้ร่วมจะช่วยให้ธนาคารอนุมัติง่ายขึ้น หรือให้วงเงินเราสูงขึ้น ซึ่งคนที่จะมาเป็นผู้กู้ร่วมได้ ต้องเป็นบุพการี เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน หรือเป็นคู่สมรส และปัจจุบันนี้ คู่รัก LGBTQ+ ก็สามารถกู้ร่วมกันได้แล้วเช่นกัน เพราะหลายธนาคารได้ปรับเงื่อนไขให้คู่รักเพศเดียวกันกู้ร่วมได้เหมือนคู่รักชายหญิงแล้ว แต่เงื่อนไขของแต่ละที่อาจจะต่างกันไป

การกู้ซื้อบ้านด้วยวิธีการกู้ร่วม สามารถทำได้ 2 แบบ คือ
1. กรรมสิทธิ์บ้านเป็นชื่อของคนเดียว แต่ผู้กู้ร่วมเข้ามาช่วยผ่อนชำระหนี้
2. กรรมสิทธิ์บ้านเป็นชื่อของผู้กู้ร่วมทุกคน

ในการกู้ร่วม ธนาคารจะประเมินวงเงินกู้จากรายได้รวมกันของทุกคนที่ขอกู้ร่วม ทำให้กู้วงเงินได้สูงขึ้นกว่ากู้คนเดียวพอสมควร บ้านในฝันก็ไม่เกินเอื้อมอีกต่อไป แต่ที่สำคัญต้องไม่ลืมวางแผนให้รอบคอบก่อน เพื่อป้องกันปัญหาระหว่างผู้กู้ร่วมในอนาคต

ปรึกษากู้ซื้อบ้าน นึกถึงบริการจาก Sansiri Home Financial Planner

เงินเดือนไม่ถึงสองหมื่น ก็กู้ซื้อบ้านได้! ผ่านง่ายกว่าที่คิด sansiri home financial planner

เมื่อเจอปัญหาในการกู้ซื้อบ้าน คิดหาทางออกไม่เจอ อย่าเพิ่งถอดใจ! เพราะทุกข้อจำกัดอาจปลดล็อกได้ เพราะเข้าใจความรู้สึกทุกคนที่อยากมีบ้าน แสนสิริจึงมีบริการ Sansiri Home Financial Planner พร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการเงินและการซื้อบ้านอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่แค่ขั้นตอนกู้ซื้อบ้านเท่านั้น แต่เราจะช่วยคุณวางแผนตั้งแต่ขั้นตอนออมเงินอย่างถูกวิธีเพื่อซื้อบ้าน การจัดเตรียมเอกสาร และช่วยประสานกับธนาคารด้วยเทคนิคที่จะช่วยให้คุณได้รับอนุมัติไว พร้อมช่วยคุณหาดอกเบี้ยและข้อเสนอที่ดีที่สุด

Sansiri Home Financial Planner สั่งสมประสบการณ์และเทคนิคกู้ซื้อบ้านมามากมาย เพื่อให้คุณวางใจว่าว่าบ้านหลังแรกในชีวิตจะไม่หลุดมือไปแน่นอน ปรึกษาการกู้ซื้อบ้านแสนสิริได้เลยที่ Sansiri.com/thai/home-financial-planner

CONTRIBUTOR

Related Articles

มาตราการอสังหา 2567

วางแผนซื้อบ้านต้องรู้! มาตรการอสังหาฯ ปี 2567 ช่วยยังไงบ้าง?

สานฝันคนอยากมีบ้านกับมาตรการอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐ ปี 2567  ที่ออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง วันนี้ เราจะมาพูดถึงมาตรการที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังจะวางแผนซื้อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าโอนและจดจำนองที่อยู่อาศัย ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมจากการปลูกสร้างบ้าน (ล้านละหมื่น) หรือสินเชื่อบ้าน โดย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งรายละเอียดแต่ละมาตรการจะเป็นอย่างไร มาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ เริ่มจาก “มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567”

ค่าใช้จ่ายซื้อบ้าน 2566

อัพเดตล่าสุด! ซื้อบ้าน ปี 2567 ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

เก็บเงินมาได้สักพัก ถึงเวลาทำความฝัน “ซื้อบ้าน-คอนโด” ของตัวเองสักหลังให้เป็นความจริงสักที แต่ๆๆ ก่อนจะไปลุยคว้ามา ต้องมาเช็กความพร้อมเรื่องค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เราต้องเตรียมการกันก่อน วันนี้เรามาอัพเดทกันดีกว่า ในปี 2567 นี้ ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และที่สำคัญภาครัฐฯ มีมาตรการช่วยคนซื้ออสังหาริมทรัพย์อะไรหรือไม่อย่างไร พร้อมแล้วไปอัพเดทกันเลย! ค่าจองและทำสัญญา เป็นค่าใช้จ่ายก้อนแรกสำหรับวางมัดจำ ขึ้นอยู่แต่ละโครงการ ส่วนใหญ่บ้านจะแพงกว่าหลักหมื่นขึ้นไป

วางแผนยื่นภาษี ฉบับคนมีคู่...สมรส

วางแผนยื่นภาษี ฉบับคนมีคู่…สมรส

สมัยก่อนอยู่ตัวคนเดียว ทำอะไรคนเดียว ยื่นภาษีก็ทำได้เพียงแบบเดียว แต่ครั้นพอแต่งงานแล้ว มีคนอีกคนเข้ามาเป็นคู่ชีวิต มาแชร์สิ่งต่างๆ ในทุกๆ วัน ซื้อบ้านหลังอบอุ่นด้วยกัน แม้แต่การยื่นภาษีก็มีทางเลือกมากขึ้นด้วยเช่นกัน เดือนแห่งความรักเวียนมาถึงทั้งที แสนสิริเอาใจคนมีคู่(สมรส) ด้วยเรื่องราวที่คู่สมรสทุกคู่จะไม่รู้ไม่ได้! นั่นก็คือการยื่นภาษีในวันที่มีใครอีกคนหนึ่งก้าวเข้ามาเป็นอีกครึ่งชีวิตของคุณแล้วนั่นเอง ยิ่งในช่วงมกราคม – มีนาคมแบบนี้ ยังเป็นช่วงการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีด้วยเช่นกัน ว่าแต่จะ “ยื่นแยกกัน”