ทำไมเมื่อถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี
จะทำให้มีความรักที่มั่นคงและยืนยาว

หากใครเล่น TikTok หลายคนคงเห็นเทรนด์ “เมื่อฉันถูกรักจากใครสักคนที่ถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี” ที่เป็นที่พูดถึงและถูกนำมาทำ Content อย่างแพร่หลายลงโซเชียล ซึ่งทำให้เห็นว่าหลายคนอยากได้รับความรัก จากใครสักคนที่ถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี เพราะหลายคนอาจเชื่อว่า หากได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี จะทำให้คนคนนั้นรู้จักความรักที่ดีเป็นเช่นไร และจะมอบความรักให้คนอื่นและรู้ว่าจะต้องปฏิบัติต่อคนที่เป็นที่รักยังไงนั่นเองค่ะ

เราเชื่อว่า “หากถูกรักจากใครสักคนที่ถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี” จะทำให้เรารู้จักที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น ในความหมายของเรา ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ความสัมพันธ์กับคนที่รักกันเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อน หรือ คนรอบข้างที่เราพบเจอด้วย ทั้งนี้เราไม่ได้หมายความว่า คนที่ถูกครอบครัวเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี จะรู้จักมอบความรักและปฏิบัติดีต่อผู้อื่นทุกคน เพราะการที่คนคนหนึ่ง จะเติบโตมาเป็นเช่นไร อาจจะขึ้นอยู่กับทัศนคติเป็นแบบไหน ประสบการณ์ที่เขาพบเจอมาเป็นเช่นไร หรือมีมุมมองความรักอย่างไร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูเพียงอย่างเดียวค่ะ 

แต่จากการวิจัยเรื่องพัฒนาการผู้ใหญ่ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard Study of Adult Development) ต่อเนื่องมาเป็นเวลายาวนานกว่า 80 ปี พบว่า การถูกเลี้ยงดูมาอย่างมีคุณภาพในวัยเด็ก โดยส่วนมากมีแนวโน้มจะมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงและมีความสุขในวัยผู้ใหญ่ค่ะ วันนี้ Mental Life by Chanisara จะมาเปิดเหตุผลว่าทำไมคนที่ถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ถึงมีแนวโน้มว่าจะมีความสัมพันธ์ที่มั่นคง ยั่งยืน และมีความสุขมากกว่ากันค่ะ

The love is strong and lasting.

เมื่อถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีจะทำให้ความสัมพันธ์มั่นคงและยั่งยืน

หลายคงสงสัยว่า การที่คนเราถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี จะทำให้คนเรามีความรักที่มั่นคงและยั่งยืนจริงหรอ เราจึงจะพาทุกคนมาหาคำตอบกัน 

คนที่ได้รับการเลี้ยงดู มาอย่างอบอุ่น ปลอดภัย ได้รับการสนับสนุนจะครอบครัวและได้รับความรักอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้คนกลุ่มนี้ สามารถสร้างความสัมพันธ์ ให้ความรัก และจะปฏิบัติต่อคนที่เขารักเป็นอย่างดี โดยทฤษฎีความผูกพัน Attachment Theory ของ John Bowlby และ Mary Ainsworth ได้กล่าวว่า คนที่เติบโตจากครอบครัวที่อบอุ่น ได้รับการเลี้ยงดูที่ดี จะทำให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยและมีแนวโน้มว่าจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคง และให้เกียรติคนรัก แต่เราเชื่อว่าเมื่อเขาอยากที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคง เขาจะพยายามเรียนรู้ ปรับตัว ยอมรับ และซื่อสัตย์ในความสัมพันธ์ที่มีต่อคนที่เขารักนั่นเองค่ะ

และยังมีการศึกษาวิจัยอีกหนึ่งชิ้นที่จะสนับสนุนว่าคนที่ถูกเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีจากครอบครัวในวัยเด็กจะสามารถมอบความ รักความอบอุ่น ให้กับผู้อื่นได้ โดยจากการศึกษา (Harvard Study of Adult Development) ต่อเนื่องเป็นเวลายาวนานกว่า 80 ปี ของ ดร.โรเบิร์ต วอลดิงเจอร์ พบว่า คนที่ได้รับความอบอุ่น ความรักจากพ่อแม่จะมีแนวโน้มว่าจะสามารถมอบความรัก ความสัมพันธ์ที่มั่นคงและอบอุ่นให้กับคู่รักของตนในวัย 80 ปี หลายคนอาจจะมีคำถามในใจว่า แล้วทำไมความรักที่อบอุ่นและมั่นคงต้องเกิดขึ้นในวัย 80 ปี  ด้วยล่ะ แล้วถ้าอายุน้อยกว่านั้นจะมีความรักที่อบอุ่นและมั่นคงได้ไหม? เราเลยจะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน

อายุน้อยจะสามารถมีความรัก ความอบอุ่นและมั่นคงในความสัมพันธ์ได้ไหม?

เราทุกคนสามารถรู้สึกอบอุ่นและมั่นคงในความสัมพันธ์ได้ทุกช่วงวัย ในตอนที่เราเป็นเด็ก หากเราถูกเลี้ยงดูและได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่ เราก็มีแนวโน้มว่าจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นคนรัก หรือเพื่อนได้ในอนาคต ในขณะที่หากเรารู้สึกไม่ได้รับความรัก ความอบอุ่นที่มากพอจากพ่อแม่ ก็อาจจะทำให้คนคนนั้นรู้สึกไม่มั่นคงในความรัก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ไม่ได้รับความรัก ความอบอุ่น จากพ่อแม่แล้วเขาจะมีปัญหาในความสัมพันธ์

ในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่อาจเป็นช่วงศึกษาทดลอง เรียนรู้ในความสัมพันธ์ เราเชื่อว่าบางคนอาจจะเจอความรัก ความสัมพันธ์ที่ดี ที่ทำให้รู้สึกมั่นคง และปลอดภัย แต่เราเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่จะรู้สึกว่าความสัมพันธ์ที่ได้รับเป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้รู้สึกตื่นเต้น อบอุ่นหัวใจ แต่อาจจะไม่ได้รู้สึกมั่นคงในความสัมพันธ์ นั่นเป็นเพราะความมั่นคงอาจจะต้องใช้เวลายาวนานที่จะรักษาความสัมพันธ์ อาจจะเห็นคนรักกัน แต่งงานกัน แต่สุดท้ายก็หย่าจะกัน นั่นอาจเป็นเพราะ เขารู้สึกได้รับความรัก ความอบอุ่นในช่วงเวลาหนึ่ง แต่นั่นไม่ได้แปลว่า ความรักความสัมพันธ์ของเขาจะมั่นคงและยืนยาว 

ในทางกลับกันคนที่มีความรัก ความสัมพันธ์ที่อบอุ่น และอยู่ร่วมชีวิตกันมาอย่างยาวนานจนอายุ 80 ปี พวกเขาจะมองเห็นทุกแง่มุมของอีกฝ่ายในด้านที่ดีและไม่ดี ยอมรับและเข้าใจในตัวอีกฝ่ายและจะไม่มีวันแยกจากกันตราบสิ้นลมหายใจสุดท้าย นั่นคงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมคนเราถึงจะมีความสัมพันธ์ ความรักที่อบอุ่นและมั่นคงอย่างแท้จริง ในวัย 80 ปี แต่หากมีความรัก ความสัมพันธ์ ตอนอายุยังไม่มาก เราอาจจะรู้จักการให้ความรัก ความอบอุ่นกับผู้อื่น แต่ยังตอบไม่ได้ว่าความสัมพันธ์นั้นจะมั่นคงและยืนยาวตลอดไปหรือไม่ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าถ้ายังอายุไม่ถึง 80 ปี ความรักของคุณจะไม่มั่นคงนะคะ เพราะเราเชื่อว่า ความรักของคุณจะมั่นคงยืนยาวหรือไม่ขึ้นอยู่กับตัวของคุณและคนที่คุณอยู่รอบข้างค่ะ และทุกคนสามารถมีความรักที่มั่นคงและยืนยาวได้นะคะ 

5 ปัจจัยที่จะทำให้ความรักมั่นคงและยั่งยืน

ความมั่นคงในความสัมพันธ์ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ความรักมั่นคงและยืนยาว และจะช่วยให้เราจับมือกันอย่างมั่นคงในช่วงเวลาที่ยากลำบาก เป็นการพยายามรักษาและพัฒนาความสัมพันธ์ ให้มั่นคงและคงอยู่ตลอดไป เช่น การมีความซื่อสัตย์และจริงใจให้กันและกัน คอยรับฟังปัญหาของกันและกัน ยอมรับและเข้าใจในความเป็นตัวเองของกันและกัน ฯลฯ

การพูดคุยสื่อสารและปรับตัวเข้าหากัน การพูดคุยอย่างเปิดอก รับฟังความคิดเห็นของกันและกัน เพื่อจะได้ปรับตัวเข้าหากันได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

การแต่งงาน จะทำให้รู้สึกมั่นคงในความสัมพันธ์มากยิ่งขึ้น เพราะคู่รักจะมีความมั่นใจในการครองรักกันมากขึ้น

การได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว ความรักไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของคนสองคน แต่หมายถึง คนรอบข้างของคนสองคนด้วย การที่ได้รับการยอมรับจากครอบครัวจะทำให้ความรักมั่นคงและยืนยาวมากขึ้น

การเห็นแบบอย่างคู่รักที่มีความมั่นคงและมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาว จะสามารถนำมาปรับใช้กับตัวเราได้ นอกจากนี้ ประสบการณ์ส่วนตัวของแต่ละคนย่อมมีผลต่อความสัมพันธ์ด้วยเช่นกัน

ความสัมพันธ์ที่ดีและมีความสุขส่งผลให้มีสุขภาพดีด้วยนะ

ความสัมพันธ์ที่ดีและมีความสุข ทำให้เราแก่ช้าลงและทำให้เรามีสุขภาพแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นมากกว่าเงินทอง หรือชื่อเสียง จากการศึกษาของ ดร.โรเบิร์ต วอลดิงเกอร์ จากมหาวิทยาลัย Harvard พบว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้คนเราอายุยืนและมีความสุข คือการมีความสัมพันธ์ที่ดี ไม่เพียงแต่การมีความสัมพันธ์กับคนรักเท่านั้น แต่รวมถึงครอบครัว เพื่อน ฯลฯ และความสัมพันธ์ คืออีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการมีชีวิตที่ดีนะคะ

คนที่ถูกเลี้ยงดูจะครอบครัวมาเป็นอย่างดี มีแนวโน้มว่าจะมีความสัมพันธ์ ความรักที่อบอุ่น มั่นคงและยืนยาวมากกว่านั่นเองค่ะ ใกล้วาเลนไทน์แล้ว เราขออวยพรให้ทุกคน ได้พบเจอความสัมพันธ์ที่อบอุ่น ความรักที่จริงใจ และพร้อมที่จะเติมเต็มความสุขให้แก่กันนะคะ แต่ถ้าถามว่าวาเลนไทน์นี้ ของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับคนรักกันควรเป็นอะไร เราเชื่อว่าหลายคนคงอยากได้ความเข้าใจ เชื่อใจ การยอมรับ และความซื่อสัตย์ในความสัมพันธ์จากคนที่รักกัน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในรูปแบบไหนก็ตามค่ะ  Happy Valentine นะคะ

 


Source

The Influential Factors of Marital Endurance: A Systematic Literature Rufinus Sabtian Herlambang 28 Jun 2024 Asian journal of healthy and science (Central Publishing)  – Vol. 3, Iss: 6, pp 120-128

https://news.harvard.edu/gazette/story/2017/04/over-nearly-80-years-harvard-study-has-been-showing-how-to-live-a-healthy-and-happy-life/

https://ipaoffthecouch.org/2019/09/21/episode-19-a-psychoanalyst-studies-the-good-life-the-harvard-study-of-adult-development/ 

https://www.thepeople.co/

Related Articles

Overthinking

Overthinking คิดแบบโอเวอร์จนทำลายสุขภาพใจ

ปลดปล่อยตัวเองจากการคิดมาก ด้วยการมองโลกตามความเป็นจริง  ไหนใครเป็นมนุษย์ที่คิดมากบ้างคะ? เราเชื่อว่าหลายคนเป็นหนึ่งในนั้น เพราะในแต่ละวันเรามีเรื่องให้คิดและเรื่องที่จะต้องตัดสินใจเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องครอบครัว ความสัมพันธ์กับคนรัก หรือแม้แต่เรื่องที่เราต้องเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวัน  หลายคนคงเคยได้ยินว่า เมื่อคนเราคิดมาก ก็ให้ปล่อยวางสิ เดี๋ยวเราก็จะรู้สึกดีขึ้น แต่ในความเป็นจริงนั้น “การปล่อยวาง” จากสิ่งที่เรากังวลหรือสิ่งที่เรากำลังคิดมากอยู่นั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากใช่ไหมล่ะคะ เราจึงต้องค่อยๆ ลองฝึกปล่อยวางและยอมรับความจริงค่ะ “การคิดมาก” เกิดขึ้นจากการที่เราคิดวนไปวนมาเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่งในด้านลบซ้ำๆ

hug

“การกอด” การแสดงความรักที่เรียบง่าย ยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาร่างกาย

“การกอด” เป็นการแสดงความรักที่เรียบง่ายและแสนพิเศษ และยังเป็นยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาร่างกาย และฟื้นฟูจิตใจได้ ทุกคนคิดว่าการกอดสำคัญไหมคะ? การกอดเป็นการแสดงความรัก ให้ความอบอุ่นซึ่งกันและกัน ทำให้ผู้กอดและผู้ถูกโอบกอดรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นใจ เหมือนมีแสงอุ่นๆออกจากตัวของคนคนหนึ่งส่งต่อไปเพื่อโอบกอดหัวใจของใครอีกคน  ทุกคนรู้ไหมว่าการกอด นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตสุขภาพใจแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพกายของเราด้วย การกอดจึงเปรียบเสมือนยาวิเศษ เป็นภาษากายที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังที่ทำให้ทุกคนที่ได้รับการโอบกอดรู้สึกดีและยังบรรเทาอาการเกิดโรคต่างๆ ทางร่างกายได้อีกด้วย  ทุกคนคงจะแปลกใจกันใช่ไหมคะว่าแค่กอดจะเยียวยาร่างกายและจิตใจของเราได้จริงๆ หรอ ไม่ว่าจะเป็นความเครียดหรือความวิตกกังวล แต่ที่น่าแปลกใจ คือมีงานวิจัยหลายชิ้น

Inner Speech

เปลี่ยน “เสียงในหัว” เปิดประตูสู่การมีสุขภาพจิตที่ดี

เปลี่ยน “เสียงในหัว” ที่เราพูดกับตัวเองในใจ ให้เป็นเชิงบวก เพื่อสะท้อนความคิด เปิดประตูสู่การมีสุขภาพจิตที่ดี  ใครมีเสียงในหัวบ้างคะ หลายคนอาจจะสงสัยใช่ไหมละคะว่าเสียงในหัวคืออะไร?เสียงในหัว เสียงที่เราพูดกับตัวเองในใจ ซึ่งออกมาจากความคิดของเราเอง อาจจะเป็นความคิดที่เราพูดกับตัวเองทั้งในแง่บวกและในแง่ลบ ซึ่งเป็นเสียงที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและเป็นเรื่องปกติที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเสียงในหัวของตัวเองนะคะ บางคนมีเสียงในหัวตลอดเวลา บางคนมีเสียงในหัวเป็นครั้งเป็นคราว และบางคนไม่มีเสียงในหัวเลย แต่สามารถคิดเป็นภาพหรือความรู้สึกได้  หากเรามี “เสียงในหัว” เราสามารถฝึกเสียงในหัวตัวเอง