เปิดลิ้นชักความสุขภายในใจ
เพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
ในทุกช่วงเวลา

เราสามารถเปิดลิ้นชักแห่งความสุขที่อยู่ในใจของเราได้
เพียงแค่ปรับมุมมองความคิด พึงพอใจในตัวเอง
และมองหาความสุขจากสิ่งรอบตัว

ทุกคนเคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมว่าความสุขของเราคืออะไร? หากย้อนกลับไปตอนที่ยังเป็นเด็กความสุขของใครบางคนอาจจะเป็นการที่ได้กินไอศกรีมแสนอร่อย การที่ได้เล่นและหัวเราะกับคนรอบข้างอย่างสนุกสนาน หรือการได้ดูการ์ตูนเรื่องโปรดที่เราชื่นชอบ เราก็สามารถมีความสุขได้แล้วใช่ไหมละคะ ทุกคนเคยสังเกตไหมคะว่าทำไมเราถึงไม่มีความสุขได้ง่าย ๆ เหมือนตอนที่เราเป็นเด็ก คนที่ยิ้มง่าย มีความสุขกับอะไรง่ายๆ คนนั้น ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนนะ 

ทุกคนเคยเก็บของอยู่ในลิ้นชักนาน จนหลงลืมไปว่าเราเคยมีของสิ่งนั้นอยู่ในลิ้นชักไหมคะ การหลงลืมของในลิ้นชักก็เหมือนการที่เราหลงลืมความสุขในระหว่างที่เราเติบโต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความฝัน ความทรงจำ หรือ ความสัมพันธ์ที่งดงามของตัวเองที่เราทำหล่นหายไปตามกาลเวลา ทั้งๆ ที่สิ่งเหล่านั้น เคยทำให้เรามีความสุข

ชีวิตของเราก็อาจเปรียบเหมือนถนนที่เราเลือกเดินไปได้เส้นเดียว สำหรับบางคนอาจเป็นเส้นทางที่ตัวเองปรารถนา ในขณะที่บางคนไม่สามารถเดินทางในเส้นทางที่ตัวเองต้องการได้ จึงเลือกปล่อยมือจากเส้นทางเหล่านั้น แล้วเดินทางไปในอีกเส้นทางหนึ่ง เพื่ออะไรบางอย่าง แต่ไม่ว่าเราจะเลือกถนนเส้นทางชีวิตเส้นไหน เราก็ต้องมีความสุข เพราะ ความสุขคือสมบัติอันล้ำค่าในชีวิตที่ทุกคนต้องมีเพื่อหล่อเลี้ยงหัวใจในการใช้ชีวิตต่อไป

วันนี้ Mental Life by Chanisara จะชวนทุกคนมาเปิดลิ้นชักความสุขของหัวใจ เพื่อค้นพบความสุขแสนเรียบง่ายในทุกช่วงชีวิต

The heart's happiness drawer

 ไขกุญแจ…เปิดลิ้นชักความสุขของหัวใจ

เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมว่า ในทุกวันเรามีความสุขรึเปล่า และเราหลงลืมอะไรในชีวิตไปหรือไม่? ไม่ว่าจะเป็น ความฝัน ความทรงจำ ความสัมพันธ์ที่งดงามของตัวเองในระหว่างทางที่เราเติบโตขึ้น เช่น หลงลืมที่จะใช้เวลากับครอบครัว หลงลืมที่จะใส่ใจคนที่คุณรักและคนที่รักคุณ หลงลืมความฝันที่ตัวเองอยากทำ หรือความทรงจำที่งดงามที่ทำให้ตัวเองมีความสุข 

ตอนเด็กๆ ที่เรามีความสุขกับอะไรที่แสนเรียบง่ายอาจเป็นเพราะ ตอนนั้นเราไม่ต้องแบกรับอะไรมากมาย ไม่ต้องคิดหรือรับผิดชอบ ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองมากเท่าไหร่นักแต่เมื่อเราเริ่มเติบโตขึ้น เราต้องมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งความเครียด ความกดดัน ความคาดหวัง และสิ่งที่ต้องการทำให้สำเร็จ จนบางทีเราอาจจะหลงลืมที่จะทำให้ตัวเองและคนรอบข้างมีความสุขในชีวิต 

ลองหันกลับมาใส่ใจสิ่งที่ทำให้ตัวเองและคนรอบข้างมีความสุขอย่างเรียบง่าย เช่น การพาตัวเองไปทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ หันไปใส่ใจครอบครัวหรือคนรอบข้างที่คุณรัก เช่น พาออกไปกินข้าวหรือใช้เวลาร่วมกัน พูดคุยกัน นอนดูหนัง หรือทำกิจกรรมอะไรก็ตามที่ทำให้ตัวคุณและคนรอบข้างมีความสุข ปล่อยวางความทุกข์ หรืออะไรที่ทำให้คุณเครียดไปบ้างสักพัก ลองไขกุญแจ เปิดลิ้นชักความสุขในหัวใจของคุณดูบ้าง แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขอยู่ใกล้ๆ ตัวคุณนะคะ

ความสุข คือ สมบัติอันล้ำค่าที่ทุกคนสามารถหาได้

หากเราเปรียบชีวิต เหมือนถนนเส้นหนึ่งที่เราจะต้องเดินไป ต่อให้มีหลายเส้นทาง แต่เราเลือกเส้นทางที่จะเดินได้เพียงเส้นเดียว และไม่ว่าเราจะเลือกเส้นทางไหน เราก็สามารถหาความสุขในเส้นทางนั้นได้เสมอ ถึงแม้ว่าเส้นทางนั้นเราอาจจะไม่ได้ปรารถนาที่จะเดินเข้าไปก็ตาม แต่เราสามารถทำไมสิ่งที่เรามีความสุขไปด้วย เพื่อหล่อเลี้ยงหัวใจให้เรามีพลังในการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตต่อไป

เพราะเราเชื่อว่า ความสุขคือสมบัติอันล้ำค่าในชีวิตที่ทุกคนต้องมีไม่ว่าเราจะเลือกเดินเส้นทางไหน ความสุขเป็นสิ่งที่ทุกคนหาได้ ในทุกเส้นทางที่เราเลือกเดิน เพียงแค่เรา ปรับเปลี่ยนมุมมองความคิด พึงพอใจในตัวเอง และหาความสุขจากสิ่งที่เรากำลังทำในทุกช่วงชีวิต เราก็จะมีความสุขได้ในทุกๆ วันค่ะ

ความสุขไม่ได้หายไป…แค่เราหลงลืมไป

ทุกคนเคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมว่า…ความสุขเราหายไปไหนหรือทำไมเราถึงมีความสุขน้อยลง เรากำลังกดดันตัวเองมากไปหรือไม่ เราควรจะใช้ชีวิตให้มีความพอดี 

และให้เวลาหัวใจตัวเองได้มีความสุขบ้าง

วิธีเปิดลิ้นชักความสุขภายในใจ

เราจะมีความสุขกับสิ่งรอบตัวเมื่อ

ปรับมุมมองความคิด

การปรับมุมมองความคิดเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ในการใช้ชีวิตให้มีความสุข เพราะไม่ว่าเราจะเลือกเดินเส้นทางไหน หรือจะต้องแบกรับ รับผิดชอบกับอะไรมากมาย หรือบางครั้งเราอาจจะต้องทำตามหน้าที่ เราจึงต้องหาอะไรที่ทำให้เรามีความสุขและชื่นฉ่่ำหัวใจบ้าง เช่น สะสมอาร์ตทอยตัวโปรด เป็นแฟนคลับศิลปินที่ชอบ ดูซีรีส์เรื่องโปรด กินของอร่อย ฯลฯ ลองหาความสุขเรียบง่ายเหมือนตอนที่เรายังเป็นเด็กดูนะคะ 

พึงพอใจในตัวเอง

การพึงพอใจในตัวเองคือกุญแจดอกสำคัญที่จะไขลิ้นชักแห่งความสุขภายในใจ เพราะหากเรารู้จักพึงพอใจในตัวเอง หรือพอใจในสิ่งที่เราทำ เราก็จะมีความสุขกับการใช้ชีวิต

ลดความคาดหวัง…เข้าใจว่าโลกมีไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ

ลดการตั้งความหวังกับตัวเองลงและปล่อยให้ตัวเองมีความสุขบ้าง อย่ากดดันและเครียดมากเกินไป รวมถึงโปรดเข้าใจว่าทุกอย่างบนโลกนี้ ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ

พัฒนาตัวเอง

การที่เรามั่นพัฒนาตัวเอง จะทำให้เราเติบโตและรู้สึกภูมิใจในตัวเองส่งผลให้เรามีความสุขตามมานะคะ

มองหาความสุขรอบตัว

 บางครั้งการมองหาความสุขที่อยู่รอบตัว และมีความสุขกับอะไรง่ายๆ ก็จะทำให้เรามีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้นค่ะ

ความสุขเป็นสมบัติอันล้ำค่าที่ทุกคนควรมี ลองเปิดลิ้นชักในหัวใจแห่งความสุขของคุณดูนะคะ เราขอให้ทุกคนมีความสุขกับการใช้ชีวิตค่ะ


Source

ได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิทรรศการ “Sundae Kids: 10 Years of Lost and Found”

 

Related Articles

Food Coma

“หนังท้องตึง หนังตาหย่อน” “Food Coma” อาการง่วงนอนหลังรับประทานอาหารเสร็จ

ไหนใครมีอาการแบบนี้บ้าง ง่วงหลังทานอาหารเสร็จแต่เราต้องกลับมานั่งทำงาน กลับมาเรียนต่อในตอนบ่าย ต้องกินชา กินกาแฟ เป็นตัวช่วยให้ตาสว่าง กลับมารู้สึกกระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง หลายคนอาจสงสัยว่าที่เรามีอาการเช่นนี้เพราะเราขี้เกียจหรือเปล่านะ? แต่แท้จริงแล้ว อาจจะเป็นเพราะเรากินอาหารที่มีแป้งและไขมันมากเกินไป รวมถึงกินอิ่มมากเกินไปจึงทำให้เรารู้สึกง่วงนอนนั่นเองค่ะ  อาการนี้เขาเรียกกันว่า “Food Coma” หรือการง่วงหลังจากรับประทานอาหารเสร็จหากฟังดูอาจจะดูเหมือนเป็นอาการที่อันตราย แต่แท้จริงแล้ว อาการนี้ไม่เป็นอันตราย แต่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงาน การเรียน สุขภาพ

White Lies

White Lies โกหกตัวเองและผู้อื่นวันนี้เพื่อความสบายใจ แต่ส่งผลกระทบต่อจิตใจอย่างไม่คาดคิด

อย่าโกหกตัวเองเพื่อรักษาความรู้สึกคนอื่น เพราะความรู้สึกของเราสำคัญไม่แพ้ใคร ทุกคนเคยโกหกตัวเองว่ามีความสุขเพื่อให้คนอื่นสบายใจไหมคะ? หลายครั้งที่เราโกหกตัวเองว่าเรายังไหว ไม่เป็นไรแค่นี้สบายมาก เราพูดกับตัวเอง “ฉันโอเค” “ฉันมีความสุข” พยายามหลอกตัวเองให้คิดแบบนั้น เพื่อที่จะแสดงออกมาให้คนอื่นเห็นว่า “”ฉันไม่เป็นไร” ทั้งที่ภายในใจแตกสลายและรับอะไรแทบจะไม่ไหวอีกแล้ว แต่เราพยายามยิ้ม พยายามหัวเราะ และบอกคนอื่นว่าไม่เป็นไร เพียงเพราะไม่อยากเป็นภาระผู้อื่นและเพื่อให้คนรอบข้างของเรารู้สึกสบายใจ  การกระทำเช่นนี้เรียกว่า “การโกหกสีขาว” หรือ  “White

World Laughter Day

“เสียงหัวเราะ” เปรียบเสมือนยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาหัวใจ

“การหัวเราะ” เปรียบเสมือนยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาหัวใจ ทำให้เราคลายเครียด มีความสุขและมองโลกในแง่บวกมากขึ้น เสียงหัวเราะสามารถเปลี่ยนโลกแสนมืดมนของใครบางคน ให้กลับมาสว่างสดใสได้ เคยไหมคะ เวลาเราเห็นใครคนหนึ่ง ไม่สดใสเหมือนเคย เราจะพยายามทำให้เขากลับมายิ้ม กลับมาหัวเราะ เพื่อที่จะทำให้เขากลับมามีความสุขได้อีกครั้ง เสียงหัวเราะจึงเปรียบเสมือนยาวิเศษที่ทรงพลังที่ช่วยเปลี่ยนแปลงอารมณ์ของผู้คนให้กลับมามีความสุข มีอารมณ์ขันและมองโลกในแง่ดีมากยิ่งขึ้น แม้ในวันที่ทุกอย่างไม่ได้เป็นดังที่ใจเราคิด หรือในวันที่เราต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต เสียงหัวเราะ อาจเป็นตัวช่วยให้เราสบายใจขึ้น และเมื่อเราสบายใจ