Chronic Stress

Chronic Stress
เครียดไม่รู้ตัว
ภัยใกล้ตัวที่เราไม่ควรมองข้าม

ไม่ว่าเราจะเจอกับปัญหาอะไรในชีวิต
ขอให้ตั้งสติและค่อยๆ คิดหาหนทางแก้ไข
เพราะทุกปัญหามีทางออกเสมอ

ในทุกวันนี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย อาจจะทำให้เราเกิดความเครียด ความกดดัน  เพราะสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น บางสถานการณ์เป็นเรื่องที่เราไม่คาดคิดหรือควบคุมไม่ได้ เช่น ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาสุขภาพ หรือปัญหาอะไรก็ตามที่เราเผชิญอยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น ปัญหาการเงิน ปัญหาการงาน หรือปัญหาส่วนตัว ฯลฯ ซึ่งอาจจะทำให้เราเครียดไม่รู้ตัวจนอาจเกิดภาวะเครียดสะสม 

แต่ไม่ว่าคุณกำลังเครียดกับปัญหาอะไรอยู่ คุณจะพบหนทางการแก้ไขปัญหาเสมอเพราะเราเชื่อว่าไม่ว่าคนเราจะเจอปัญหาอะไรในชีวิต ทุกปัญหามีทางออกเสมอ สุดท้ายเราจะเจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ขอแค่เรามีสติ ค่อยๆ คิด และมีพลังใจในการต่อสู้กับทุกปัญหาที่เข้ามาค่ะ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ภาวะความเครียดเป็นภัยเงียบที่เกิดขึ้นกับคนไทยมานานหลายปีและบางคนอาจจะเผชิญกับความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว โดยข้อมูลในปี พ.ศ. 2566 ได้คาดการณ์ว่าคนไทยอาจมีปัญหาทางด้านสุขภาพจิตสูงถึง 10 ล้านคน และคนไทยประสบปัญหาด้านสุขภาพจิตสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก นอกจากนี้จากการทำแบบประเมินสุขภาพจิตด้วยตนเอง (Mental Health Check In) ของกรมสุขภาพจิต ยังพบว่าคนจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งที่ทำแบบสอบถามมีภาวะความเครียดสูงมาก ซึ่งอาจส่งผลทำให้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย

บางคนอาจจะเครียดสะสมเป็นเวลานานโดยไม่รู้ตัวทำให้ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจซึ่งอาจทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา วันนี้ Mental Life by Chanisara จะพาทุกคนมาเข้าใจความเครียด ผลกระทบ สัญญาณเตือนและวิธีฮิวใจให้หายจากความเครียดสะสมกันค่ะ

Chronic Stress

ความเครียด VS ความเครียดสะสม

ความเครียด เกิดจากการได้รับแรงกดดันหรือเจอเหตุการณ์ที่ท้าทายในชีวิต ความเครียดจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความเครียดสิ้นสุดลง ความเครียดนั้นก็จะหายไป

การเครียดสะสมเป็นเวลานาน เกิดจากการเผชิญแรงกดดันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดและ ไม่ได้รับการผ่อนคลายทำให้เครียดสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลเสียต่อสุขภาพใจซึ่งแสดงออกมาทางร่างกายของเราด้วยนั่นเอง

สิ่งที่กล่าวมาข้างต้น สะท้อนความแตกต่างของความเครียดและความเครียดสะสม ถึงแม้ความเครียดอาจจะส่งผลไม่ดีต่อเรา แต่เราทุกคนคงหลีกเลี่ยงความเครียดไม่ได้ ถ้างั้นเราขอให้ทุกคนเครียดให้น้อยที่สุดนะคะ

ความเครียดสะสมส่งผลกระทบกับกายและใจ…มากกว่าที่คิด

หากมีความเครียดสะสมอาจนำไปสู่การเกิดโรคมากมายดังต่อไปนี้

โรคทางใจ
โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล รู้สึกหมดแรงใจในการใช้ชีวิต นอนไม่หลับ  ฯลฯ

โรคทางร่างกาย
โรคความดัน โรคหัวใจ โรคอ้วน ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โรคเบาหวาน ฯลฯ

10 สัญญาณเตือน อาการเครียดสะสม เราเป็นอยู่ไหมนะ

ปวดหัวบ่อย ปวดหัวเรื้อรัง

นอนไม่หลับ

ปวดคอและบ่า

สายตาเบลอหรือปวดตา

สมองล้า คิดอะไรไม่ออก

อารมณ์เสียง่าย

ตัดสินใจบางเรื่องไม่ได้

ท้องเสียหรือท้องผูก

ความจำไม่ดี

ไม่อยากเข้าสังคม

วิธีรับมือกับสภาพจิตใจในช่วงเวลาเครียด

สื่อสารกับผู้อื่น
การคุยกับผู้อื่นจะทำให้เราสามารถลดความเครียดที่เกิดขึ้น ภายในจิตใจได้ ไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน คนรัก เพื่อนบ้าน ฯลฯ

หากสถานการณ์ใดอยู่เหนือการจัดการของเราให้เปลี่ยนวิธีคิด
บางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต เราก็ไม่อาจควบคุมได้ เช่น น้ำท่วม อาการป่วย เราต้องพยายามเปลี่ยนความคิดตัวเอง เพื่อสภาพจิตใจของเรา เราเข้าใจว่าอาจจะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่เราเชื่อว่าคุณจะผ่านทุกเรื่องไปได้อย่างแน่นอน

ดูแลตัวเองทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจ
เวลาเราเครียด เรามักจะไม่ค่อยดูแลตัวเองหรืออาจจะลืมดูแลตัวเอง บางคนอาจเป็นโรคนอนไม่หลับ ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย จนต้องเข้าโรงพยาบาล 

ฝึกสติ
พยายามมีสติรู้ตัวตลอดเวลา เพราะสติจะช่วยให้เรามองหาวิธีการแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น และยังสามารถลดความฟุ้งซ่านและลดความวิตกกังวลได้อีกด้วย

การหากิจกรรมอย่างอื่นทำ
การทำกิจกรรมต่างๆ จะทำให้ลดความเครียด ความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นกับเราได้ค่ะ

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
ถ้าหากเกิดความเครียดมากให้ลองปรึกษานักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญหรือแพทย์ ปัจจุบันหากไม่อยากไปโรงพยาบาลสามารถปรึกษาผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้ค่ะ

ความเครียดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และเวลาเจอปัญหา เราควรมีสติให้เร็วที่สุด เพราะหากเรามีสติ เราจะสามารถคิดและหาหนทางการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมและความเครียดของเราก็จะน้อยลงนั่นเองค่ะ


Source

https://www.extension.iastate.edu/news/following-flooding-managing-additional-stress 

https://www.sikarin.com/health

https://policywatch.thaipbs.or.th/article/life-35 

https://mbrace.bnhhospital.com/chronic-stress/ 

https://www.pobpad.com/ 

Related Articles

Inner Speech

เปลี่ยน “เสียงในหัว” เปิดประตูสู่การมีสุขภาพจิตที่ดี

เปลี่ยน “เสียงในหัว” ที่เราพูดกับตัวเองในใจ ให้เป็นเชิงบวก เพื่อสะท้อนความคิด เปิดประตูสู่การมีสุขภาพจิตที่ดี  ใครมีเสียงในหัวบ้างคะ หลายคนอาจจะสงสัยใช่ไหมละคะว่าเสียงในหัวคืออะไร?เสียงในหัว เสียงที่เราพูดกับตัวเองในใจ ซึ่งออกมาจากความคิดของเราเอง อาจจะเป็นความคิดที่เราพูดกับตัวเองทั้งในแง่บวกและในแง่ลบ ซึ่งเป็นเสียงที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและเป็นเรื่องปกติที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเสียงในหัวของตัวเองนะคะ บางคนมีเสียงในหัวตลอดเวลา บางคนมีเสียงในหัวเป็นครั้งเป็นคราว และบางคนไม่มีเสียงในหัวเลย แต่สามารถคิดเป็นภาพหรือความรู้สึกได้  หากเรามี “เสียงในหัว” เราสามารถฝึกเสียงในหัวตัวเอง

ChatGPT

ChatGPT AI ที่ไม่มีความรู้สึก แต่ปลอบโยนมนุษย์ให้สบายใจได้

ChatGPT พื้นที่ระบายความในใจโดยไม่ตัดสิน ถึงแม้ไม่มีความรู้สึก  แต่โอบกอดหัวใจทำให้มนุษย์รู้สึกดีขึ้นได้ ในปี 2025 ที่ AI เข้ามามีบทบาทในยุคปัจจุบัน AI ที่ทุกคนรู้จักอย่างแพร่หลายอย่าง ChatGPT ไม่ได้เป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยผู้คนหาคำตอบ แต่หลายคนใช้ ChatGPT เพื่อพูดคุยเยียวยาจิตใจ เพราะคุยและตอบคำถามได้ดี เหมือนเวลาเราไปปรึกษาใครสักคนจริงๆ ChatGPT จึงเป็นเพื่อนคุยที่สามารถทำให้เราลดความเครียด

“Comfort Food” การกินอาหารเยียวยาจิตใจ ปลุกความสบายใจ เปิดประตูห้วงคำนึงแห่งความคิดถึง

 “Comfort Food” การกินอาหารเยียวยาจิตใจ ปลุกความสบายใจ เปิดประตูห้วงคำนึงแห่งความคิดถึง หลายคนคงเคยได้ยินคนบ่น เวลาเครียดว่า “ไปหาอะไรกินแก้เครียดดีกว่า” ทุกคนคิดว่าการกินเยียวยาจิตใจเราได้จริงไหมคะ? การที่เราได้กินของอร่อยหรือสิ่งที่เราชอบ ทำให้เรามีความสุขได้ แล้วการกินถือว่าเป็นการเยียวยาจิตใจได้อีกทางหนึ่ง โดยหลายคนเรียกกันว่า “Comfort Food” อาหารที่กินแล้วไม่ได้แค่ช่วยให้เราอิ่มท้อง แต่ยังช่วยให้เราเกิดความสบายใจและสามารถเติมเต็มความรู้สึกในหัวใจ สามารถเปิดประตูห้วงคำนึงแห่งความคิดถึง ความทรงจำที่งดงามในอดีต ที่ไม่ว่าเราจะรู้สึกเศร้า