ปลูกคุณค่า ออกแบบพื้นที่สีเขียวด้วย Eco-Planting

บนโลกใบนี้มีพืชพรรณมากมายหลายชนิด และต้นไม้แต่ละชนิดต่างมีเอกลักษณ์และประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป การปลูกต้นไม้จึงไม่ใช่แค่คำนึงถึงเรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่จะต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่ต้นไม้นั้นจะมอบให้กับเราด้วย ดังนั้นการนำ Eco-Planting มาใช้ จะช่วยให้เกิดผลดีมากมาย

เพราะมนุษย์เราไม่สามารถอาศัยอยู่ได้โดยปราศจากธรรมชาติ ดังนั้นการมีต้นไม้สีเขียวชอุ่มอยู่ใกล้บริเวณที่พักอาศัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่การปลูกต้นไม้สักต้นนั้นไม่ใช่เพียงการขุดดิน หยอดเมล็ดพันธุ์แล้วกลบเพียงเท่านั้น แต่ควรผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้สอยที่ตรงตามคุณลักษณะของต้นไม้ชนิดนั้นๆ

แสนสิริจึงได้มีการนำหลักการจัดการต้นไม้แบบ Eco-Planting นั่นคือการ ’เลือก’ พรรณไม้ที่มีประโยชน์ และ ‘ปลูก’ โดยการจัดวางตำแหน่งให้ประโยชน์ของต้นไม้เชื่อมโยงกับสุขภาพของผู้อยู่อาศัยมาใช้ในการออกแบบพื้นที่สีเขียวในโครงการต่างๆ ทั้งแนวราบและแนวสูง เพื่อให้เกิดสุนทรียภาพสูงสุดในการอยู่อาศัยของลูกบ้านทุกคน มาดูกันว่าหลักการปลูกต้นไม้แบบ Eco-Planting นั้นมีอะไรบ้าง

Dust Protection Planting 

ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง PM 2.5 แบบนี้ คงจะดีไม่น้อยหากบ้านเป็นสถานที่ที่เราสามารถสูดอากาศสะอาดได้เต็มปอด ดังนั้นการเลือกพันธุ์ไม้ที่มีความสามารถดักจับฝุ่น อย่างเสลา แคแสด ชงโค โมกมัน ต้อยติ่งเทศ หรือจันทร์กระจ่างฟ้า มาปลูกไว้ในบริเวณบ้าน จึงเปรียบเสมือนเครื่องกรองอากาศชั้นดีที่ช่วยกรองฝุ่นละอองต่างๆ แสนสิริก็ได้นำพืชเหล่านี้มาปลูกตามแนวรั้วโครงการที่ติดกับถนนรอบโครงการ เพื่อเป็นเกราะป้องกันฝุ่นละอองชั้นหนึ่งก่อนที่อากาศจะไหลเวียนเข้าสู่ตัวอาคาร เพื่อให้ลูกบ้านได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ที่สุด

Aromatherapy Planting 

ในวันที่เราต้องทำกิจกรรมนอกบ้านจนเหนื่อยล้า การได้เดินเข้ามาในบ้านแล้วได้สัมผัสกลิ่นหอมๆ เหมือนกำลังอยู่ในสปา น่าจะช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าและบำบัดอารมณ์ให้ดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อย การเลือกสรรพันธุ์ไม้มีกลิ่นหอมมาปลูกในบริเวณบ้านจึงเป็นทางเลือกที่ดี แสนสิริจึงได้เลือกนำต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมอย่าง บุหงาส่าหรี พุดภูเก็ต พุดซ้อน มะลิ เข็มอินเดีย ไทรอินโด และโรสแมรี่ มาปลูกในโครงการ เพื่อให้ลูกบ้านรู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดความเครียด ลดความดันโลหิต และยังช่วยให้หลับสบายอีกด้วย

Rain Garden Planting

เราอยู่ในประเทศที่มีลักษณะภูมิอากาศร้อนชื้นแบบนี้ การจะมีฝนตกบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่นอกจากสายฝนจะนำเอาความชุ่มฉ่ำมาให้แล้ว บางครั้งฝนที่ตกมากจนเกินไปอาจทำให้เกิดน้ำขังตามบริเวณต่างๆ จนกลายเป็นอุปสรรคในการใช้เวลาพักผ่อนหรือการเล่นสนุกของเด็กๆ การนำปลูกพืชที่ดูดซึมน้ำได้ดีมาปลูกไว้ในพื้นที่ที่ต้องรับน้ำฝนปริมาณมากเป็นพิเศษนั้นจะช่วยดูดซับน้ำลงดินและขจัดน้ำส่วนเกินออกได้อีกทางหนึ่ง

Pollution Absorption Planting

อากาศบริสุทธิ์นั้นไม่มีขาย แต่เราสร้างขึ้นเองได้ แค่เลือกปลูกต้นไม้ที่มีคุณสมบัติดูดซับสารพิษต่างๆ ในอากาศ ไม่ว่าจะเป็น ต้นจั๋ง สาวน้อยปะแป้ง ลิ้นมังกร เฟิร์นบอสตัน และเดหลีใบมัน เพื่อขจัดสารพิษประเภท Benzene, Formaldehyde, Trichloroethylene, Xylene และ Toluene หรือแม้แต่การเลือกปลูกต้นตะแบก จิกน้ำ เสี้ยวดอกขาว ยี่โถแคระ ผกากรองเลื้อย บุษบาฮาวาย และเข็มอินเดีย ที่ช่วยในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อให้เราได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์และไม่ต้องคอยกังวลว่าวันนี้หรือต่อไปในวันข้างหน้า จะต้องเผชิญกับมลพิษทางอากาศ จนเสียสุขภาพ

Coverage Planting

ถึงแม้เมืองไทยจะมีถึงสามฤดู แต่ทุกฤดูก็ดูเหมือนจะเป็นฤดูร้อนไปเสียหมด จึงไม่แปลกใจเลยที่เครื่องปรับอากาศมักจะเป็นสินค้าขายดีของเมืองไทย แต่รู้ไหมว่าการปลูกต้นไม้ก็ช่วยให้บ้านของเราเย็นสบายได้เหมือนกัน โดยการคัดเลือกปลูกพันธุ์ไม้ที่ช่วยกรองแสงแดดหรือช่วยลดอุณภูมิโดยรอบ ทั้งการปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงากับตัวบ้านที่มีพื้นที่มาก การปลูกพืชคลุมดินเพื่อป้องกันความร้อนที่ผิวดิน หรือการปลูกพืชแนวดิ่งตามแนวกำแพง (Vertical Garden) สำหรับคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด เพื่อไม่ให้ความร้อนผ่านเข้าไปภายในอาคารได้ค่ะ

กว่า 35 ปีที่แสนสิริเรียนรู้ เข้าใจ และอยากให้ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว เราจึงออกแบบพื้นที่สีเขียวในโครงการ ผ่านการเลือกและปลูกต้นไม้ตามหลัก Eco-Planting ที่ใส่ใจลึกลงไปถึงประโยชน์ของต้นไม้แต่ละชนิดที่เชื่อมโยงกับสุขภาพของตัวเราทั้งกายและใจ โดยโครงการ เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค มีการปลูกต้นไม้ตามหลัก Eco-Planting อย่างครบวงจรเป็นที่แรก

เพราะความสุขของการอยู่อาศัย ไม่ใช่เพียงการได้อยู่ในสิ่งก่อสร้างที่ดี แต่ต้องได้อยู่ในบริเวณที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ดี ดังนั้นการเลือกสรรเพื่อนบ้านสีเขียวมาอยู่ล้อมรอบจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยกว่าการเลือกซื้อบ้านสักหลัง

ติดตามเรื่องราวของ Sansiri Tree Story เพิ่มเติมได้ ที่นี่