เติมน้ำให้พอ = เติมพลังให้ชีวิต
เคล็ดลับเล็กๆ
ของการดื่มน้ำ ที่ช่วยให้ร่างกายสมดุล

เราควรดื่มน้ำหลังตื่นนอน
เพราะจะช่วยให้รู้สึกสดชื่น
มีสมาธิและมีความจำที่ดีขึ้น

ทุกคนตื่นขึ้นมาตอนเช้าเคยดื่มน้ำเปล่ากันไหมคะ? รู้ไหมว่าการดื่มน้ำเปล่าหลังตื่นนอนตอนเช้าส่งผลดีต่อร่างกายของเรามากเลยนะคะ เพราะการดื่มน้ำเปล่าจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายไม่ว่าจะเป็นระบบไหลเวียนเลือด ระบบย่อยอาหาร ฯลฯ รวมถึงการดื่มน้ำตอนตื่นเช้ายังช่วยทำให้เรารู้สึกสดชื่น สดใส พร้อมที่จะไปทำงาน ไปเรียน หรือ ไปทำกิจวัตรประจำวัน ในทุกๆ เช้าค่ะ ถือเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดีเลยนะคะทุกคนว่าไหม

แล้วทุกคนเคยสังเกตกันไหมคะว่า ในบางวันที่เราตื่นขึ้นมาตอนเช้าเราจะรู้สึกเหนื่อยล้าและขาดพลัง นั่นอาจเป็นเพราะร่างกายของเราขาดน้ำมาตลอดทั้งคืนนั่นเองค่ะ 

วันนี้ Mental Life by Chanisara จะชวนทุกคนมารู้จักประโยชน์ของการดื่มน้ำที่ส่งผลต่อระบบความคิด ความจำและระบบอื่นในร่างกาย รวมถึงพาทุกคนมาหาคำตอบว่าจริงหรือไม่ที่ทุกคนต้องดื่มน้ำวันละ 8 แก้วค่ะ

Hydration

ทำไมเมื่อดื่มน้ำไม่เพียงพอ อาจทำให้สมองไม่ปลอดโปร่ง 

การที่เราไม่รู้สึกสดชื่นแจ่มใส คิดอะไรไม่ค่อยออก อาจเกิดจากสาเหตุสมองขาดน้ำก็เป็นได้ โดยสำนักข่าว BBC ประเทศไทยได้รายงานว่ามีผลวิจัยพบว่า การที่สมองขาดน้ำ สมองจะทำงานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ ทำให้การประมวลผลของสมองลดลง ส่งผลให้เราคิดอะไรไม่ค่อยออกนั่นเองค่ะ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงาน การเรียน หรือกิจวัตรประจําวันที่ต้องใช้สมาธิสูงได้ค่ะ 

ถึงแม้ว่าเราจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า การดื่มน้ำมีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราอย่างมากมายมหาศาลมากเพียงใด แต่ทีมนักวิจัยสถาบันเทคโนโลยีแห่งจอร์เจียหรือ GIT ของสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาเรื่องการขาดน้ำของร่างกายมนุษย์อย่างเจาะลึก เพื่อที่จะทำให้เราได้รู้ว่าสมองขาดน้ำไปมากเท่าไหร่ถึงจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงและการที่สมองขาดน้ำส่งผลต่อกระบวนการคิดของมนุษย์เราอย่างไร โดยวิจัยฉบับนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Medicine & Science in Sports & Exercise พบว่า การที่ร่างกายคนเราขาดน้ำ เพียง  2%  ของมวลร่างกาย (2% ของน้ำหนักตัว)  หรือเทียบกับการเสียเหงื่อ 1 ลิตร ก็จะทำให้เราขัดสมาธิในการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสูง ซึ่งจากการศึกษาสะท้อนให้เห็นว่า ถ้าหากขาดน้ำจะทำให้กระบวนความคิดของเราไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรดังนั้นทุกคนอย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอกันนะคะ

การขาดน้ำทำให้ความเครียดเพิ่มขึ้น

การที่เราขาดน้ำสามารถเพิ่มความเครียด ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้ เนื่องจากเมื่อเราขาดน้ำร่างกายจะผลิตฮอร์โมนความเครียดที่มีชื่อว่า “คอร์ติซอล” ออกมา ฮอร์โมนนี้จะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อร่างกายเกิดความเครียด ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการวิตกกังวล หงุดหงิด ส่งผลต่อสารเคมีในสมองของเราได้ค่ะ

รวมถึงมีนักจิตวิทยาแนะนำว่าหากใครมีอาการตื่นตระหนกให้จิบน้ำเย็นเล็กน้อยอาการจะดีขึ้น จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นแสดงให้เห็นว่าการขาดน้ำทำให้ความเครียดเพิ่มสูงขึ้นเป็นข้อเท็จจริงค่ะ ดังนั้นทุกคนอย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำนะคะ

“น้ำ” ตัวช่วยในการรักษาสมดุลของร่างกาย

“น้ำ” เป็นตัวช่วยในการรักษาสมดุลของ “ของเหลว” ในร่างกายและอุณหภูมิของร่างกาย รวมถึงเป็นตัวช่วยทำให้เกิดปฏิกิริยาทั้งเคมี ทำให้ระบบในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ น้ำมีหน้าที่ทำงานร่วมกับเลือด ช่วยในเรื่องของการละลายออกซิเจนและสารอาหารในเซลล์ร่างกายของคนเรา เราจึงต้องกินน้ำให้เพียงพอสำหรับร่างกายเพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกายนั่นเองค่ะ

เราไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว แต่ต้องดื่มน้ำเพียงพอต่อร่างกาย

ทุกคนเคยสงสัยไหมคะว่าเพราะอะไรเราต้องกินน้ำวันละ 8 แก้ว ในความเป็นจริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องกินน้ำให้ครบ 8 แก้ว แต่กินให้เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคน

เพราะร่างกายแต่ละคนอาจจะต้องการน้ำไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เพศ อายุ น้ำหนัก สภาพอากาศ การทำกิจกรรม ฯลฯ  และอาหารที่เรากินมีน้ำเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ หรืออาหารอิ่นๆ โดยสถาบันการแพทย์ของสหรัฐอเมริกา ได้ให้คำแนะนำว่าผู้หญิงควรดื่มน้ำเวลา 6 – 9 แก้วในขณะที่ผู้ชายควรดื่มน้ำวันละ 8 -12 แก้ว ต่อวัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของแต่ละคนด้วย

โดยคำนวณดังนี้  (สูตรคำนวณจากสำนักสารนิเทศสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย)  

น้ำหนักตัวเรา  x 2.2 x 30/2  เช่น หากเราน้ำหนักตัว 40 x 2.2 x 30/2 = 1,320 มิลลิลิตร เราก็ควรรับประทานน้ำ 1.3 ลิตรต่อวันนั่นเองค่ะ ดังนั้นสะท้อนให้เห็นว่าคนเราจึงไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว แต่ดื่มน้ำให้เพียงพอสำหรับร่างกายของเรานะคะ

การดื่มน้ำในตอนเช้าหลังตื่นนอนจะทำให้เรารู้สึกสดชื่น แจ่มใส สมองปลอดโปร่งส่งผลให้การทำงานของสมองมีประสิทธิภาพดีขึ้น ฉะนั้นอย่าลืมมาดื่มน้ำทุกวันก่อนหลังตื่นนอนตอนเช้าให้เป็นกิจวัตรประจำวันกันนะคะทุกคน


Source 

https://www.bbc.com/thai/international-45057581

https://www.officeh2o.com/blog/does-being-dehydrated-affect-your-mental-health/ 

https://becommon.co/life/living-daily-water-intake/ 

https://www.thairath.co.th/lifestyle/lifestyle45plus/2748437.

Related Articles

lose friend

เพื่อน” ที่จริงใจ คือ ของขวัญล้ำค่าที่ควรมีอยู่ในชีวิต

เมื่อเราเติบโตขึ้น “เพื่อน” อาจจะหล่นหายไปบ้าง แต่ “เพื่อน” ที่จริงใจและคอยเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้เรา คือ ของขวัญล้ำค่าที่ควรมีอยู่ในชีวิต  เมื่อเราเติบโตขึ้นเพื่อนเราจะน้อยลง ทุกคนว่าจริงไหมคะ? ในชีวิตคนเราอาจจะต้องพบเจอคนมากมาย ในจุดเริ่มต้นของการมีเพื่อน คนในครอบครัวเป็นคนเลือกสังคมให้เรา เช่น การเลือกสังคมโรงเรียน หรือการพาเราไปเล่นกับลูกเพื่อน และหากใครมาเล่นกับเรา เราก็จะนับว่าเขาคือ “เพื่อน” ทำให้ตอนเด็กๆ

the power of love

“พลังของความรัก” จะทำให้เราจับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้

“พลังของความรัก” จะทำให้เราจับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ ทุกคนเชื่อในพลังแห่งความรักไหมคะ ความรักสามารถเปลี่ยนแปลงใครคนหนึ่งให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้ แต่ความรักไม่ได้มีเวทมนตร์พิเศษอะไรหรอกค่ะ เพียงแค่ความรักเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ใครบางคน อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีกว่าเดิมเพื่อใครอีก คน ทำให้รู้สึกว่าตัวเองคู่ควรกับความรัก ความสัมพันธ์นั้น นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมความรักถึงทรงพลัง ความรักยังมีพลังทำให้มนุษย์เราสามารถจับมือก้าวผ่านทุกอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นจากกลไกลทางจิตวิทยา การสนับสนุนของคู่รัก และวัฒนธรรมในบริบทของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นคู่รักชายหญิง หรือคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศ  หากย้อนกลับไปในสมัยอดีต ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความรักของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศนั้น

Presenteeism

ฟังเสียงร่างกายด้วยหัวใจ รู้จักกับภาวะ Presenteeism ฝืนทำงานทั้งที่ร่างกาย-จิตใจไม่ไหว

ใครเคยเป็นบ้างคะ ฝืนทำงานทั้งที่สภาพร่างกายหรือสภาพจิตใจไม่ไหว เพราะไม่อยากลาหยุด แต่การฝืนทำงานทั้งที่ยังป่วยอาจทำให้เราป่วยเพิ่มมากขึ้นและอาจจะทำให้เราทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร โดยในประเทศไทยมีคนมากกว่า 50% ยังไปทำงานทั้งที่ยังคงเผชิญอาการป่วยทางร่างกายไม่เพียงเท่านั้นยังพบว่า ผู้คนประมาณ 27.5% ยังคนฝืนทำงานทั้งที่มีปัญหาสุขภาพใจ นอกจากนี้มีการสำรวจพบว่ายังมีบางคนฝืนทำงานมากกว่า 5 ครั้งทั้งที่ป่วยภายใน 1 ปี อีกด้วยค่ะ  ทำไมหลายคนถึงทำเช่นนั้นอาจเป็นเพราะ อาจจะมองว่าเป็นภาระหน้าที่ที่เราต้องทำ งานนั้นไม่มีใครทำแทนเราได้ มีงานด่วน