ความรักอาจเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่มีรูปแบบไม่ตายตัวที่สุด ไร้พรมแดนที่สุด และนำไปสู่ความฝันได้ไม่สิ้นสุดอันดับต้นๆ ของทุกสิ่งในโลกใบนี้ ในขณะที่คู่รักบางคู่ใฝ่ฝันถึงการแต่งงาน มีลูกน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจ ยังมีคู่รักมากมายที่ปรารถนาเพียงการใช้ชีวิตร่วมกัน ดูแลกันไปตราบนานเท่านาน ในบ้านอันแสนอบอุ่นที่เป็นของเขา…ทั้งสองคน
ใครที่ได้ติดตามเรื่องเล่าของ ‘รักเท่า(กับ)บ้าน’ ของคุณลี่-ธนิดา แก้วกำพลกุล และคุณแอน-ปุณณดา เศวตธนะ คงได้เห็นอีกคู่รักที่พิสูจน์แล้วว่าความรักไม่จำกัดเพียงความเป็นชาย-หญิง และความฝันของคู่รักอาจเป็นเพียงการดูแลกัน ฝึกโยคะไปด้วยกันจนผมเป็นสีขาว โดยมีคอนโดจากการกู้ร่วม LGBTQ+ เป็นทรัพย์สินร่วมกัน ราวกับเป็นลูกตัวน้อยๆ ที่เข้ามาเติมเต็มการชีวิตคู่
ถึงการกู้ร่วมของคู่รัก LGBTQ+ จะง่ายดายและเป็นไปได้แบบนี้ หลายคนก็ยังอดกังวลในหลายๆ เรื่องไม่ได้ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า “กุญแจสำคัญ” อยู่ที่การเตรียมเอกสาร รวมทั้งการเลือกธนาคารเท่านั้นเอง! ตามมาส่อง Tips ดีๆ ของการเตรียมพร้อมก่อนกู้ร่วม LGBTQ+ ที่จะช่วยให้คุณและคนรักกู้ได้ง่ายๆ และได้บ้านในฝันอย่างที่ตั้งใจกัน
ความสัมพันธ์ต้องยืนยันกันหน่อย!
ใครว่ารักกันต้องแต่งงานกันเสมอไป? เช่นเดียวกับคุณลี่และคุณแอน คู่รักมากมายมองว่าการแต่งงานอาจไม่ใช่สิ่งสำคัญจำเป็นนัก และสำหรับคู่รัก LGBTQ+ ในประเทศไทยเอง ก็ยังไม่มีกฎหมายออกมารองรับการแต่งงานหรือให้สิทธิ์ในการจดทะเบียนสมรสสำหรับคู่รัก LGBTQ+ (ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ควรถูกผลักดันให้เกิดขึ้นได้อย่างจริงจังเสียที) แม้จะมีการพิจารณาเรื่องของพ.ร.บ.คู่ชีวิต แต่การแต่งงานที่ไม่ได้เพิ่มสิทธิทางกฎหมายให้กับคู่รัก LGBTQ+ แต่อย่างใด ทำให้หลายคู่รักก็ยังกังวลเกี่ยวกับการมีสินทรัพย์ร่วมกัน หรือการกู้ร่วม
แต่ในปัจจุบัน หลายธนาคารได้เปิดโอกาสให้คู่รัก LGBTQ+ สามารถกู้ร่วมกันได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร บางธนาคารอาจจะมีการขอเอกสารเพิ่มเติมมากกว่าการกู้ร่วมแบบชาย-หญิง แต่ไม่ต้องห่วง แสนสิริบล็อกจะช่วยคุณเองค่ะ
นอกเหนือจากเอกสารปกติที่จะต้องจัดเตรียมสำหรับการกู้ซื้อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเอกสารส่วนตัว เอกสารทางการเงินที่แสดงรายได้และความสามารถทางการเงินเอกสารข้อมูลทรัพย์สิน หรือเอกสารหลักประกัน (เช็คเอกสารต่างๆ ได้เลย ที่นี่) แต่สำหรับการกู้ร่วมของคู่รัก LGBTQ+ แล้วนั้น อาจลองเตรียมเอกสารเพิ่มเติมเหล่านี้ที่ช่วยยืนยันความสัมพันธ์ได้ดีเผื่อไว้ด้วย เช่น
– ทะเบียนบ้านที่มีชื่อของคุณทั้งคู่อยู่ เพื่อยืนยันว่าอาศัยอยู่ด้วยกัน
– บัญชีเงินฝากร่วมกัน (บัญชีคู่)
– เอกสารจากการกู้ซื้อทรัพย์สินอื่นร่วมกัน เช่น รถยนต์
– เอกสารยืนยันการทำธุรกิจร่วมกัน
– ใบสมัครสินเชื่อบ้านที่มีการลงชื่อเพื่อยืนยันเพิ่มเติมว่ามีความสัมพันธ์กันระหว่างผู้กู้หลักและคู่รักที่จะกู้ร่วม
ส่วนสำหรับคู่ไหนที่แต่งงานกันแล้ว ก็อาจนำรูปถ่ายจากการแต่งงานมายื่นประกอบ หรือหากใครมีการแต่งงานในประเทศที่อนุญาตให้คู่รัก LGBTQ+ จดทะเบียนสมรสกันได้อย่างถูกต้อง ก็สามารถเตรียมเอกสารทะเบียนสมรสนั้นเผื่อยื่นประกอบให้ธนาคารพิจารณาได้ด้วยเช่นกัน
เช็คก่อนเลือกธนาคารที่ใช่ ช่วยให้กู้ร่วมได้ง่ายกว่าที่คิด
การเดินดุ่มๆ เข้าไปยื่นเอกสารให้กับธนาคารที่ยังไม่เปิดให้กู้ร่วมสำหรับคู่รักเพศเดียวกัน อาจทำให้ต้องเสียเวลาจากโดนปฏิเสธและผิดหวังแบบไม่ทันตั้งตัว! เราต้องถือคติ “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” ก่อนอื่นมาเช็คลิสต์รายชื่อของธนาคารและเงื่อนไขกันก่อน ว่ามีธนาคารไหนที่ยอมให้มีการกู้ร่วมคู่รัก LGBTQ+ หรือมีเงื่อนไขและดอกเบี้ยเงินกู้ที่เหมาะสมหรือเอื้อต่อการกู้ร่วมในกรณีของคุณที่สุด
ตัวอย่างธนาคารที่รับพิจารณาการยื่นกู้ร่วมเพศเดียวกันทุกกรณี
โดยมาก ธนาคารมักมีการกำหนดเงื่อนไขและคุณสมบัติผู้กู้ เหมือนกับการกู้ร่วมทั่วไป เช่น อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี โดยอายุของผู้กู้ เมื่อรวมกับระยะเวลากู้ต้องไม่เกิน 65 ปี โดยพิจารณาจากผู้กู้ร่วมที่อายุน้อยที่สุด รวมทั้งยังคงต้องดูวงเงินกู้ รายได้ และภาระหนี้ด้วยเช่นกัน
– ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB): หนึ่งในธนาคารที่ร่วมมือกับแสนสิริ เปิดกว้างให้คู่รัก LGBTQ+ กู้ร่วมได้ทุกเพศ ทุกอาชีพ ไม่มีข้อจำกัด แค่คุณสมบัติเป็นไปตามเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด
– ธนาคารออมสิน (GSB): มีการพิจารณารายได้ตามเกณฑ์ที่กำหนด
– ธนาคารกสิกร (KBANK): ต้องมีหลักฐานแสดงความสัมพันธ์หรือการอยู่ร่วมกันเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี เช่น ทะเบียนบ้านที่อยู่ด้วยกัน หรือบัญชีเงินฝากที่เปิดร่วมกัน
– ธนาคารยูโอบี (UOB): กำหนดให้ต้องมีผู้กู้ร่วมฝ่ายหนึ่งที่ธนาคารประเมินว่าสามารถกู้บ้านหลังนี้ได้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว และผู้กู้ร่วมอีกคนที่เหลือจะต้องมีความสามารถในการผ่อนชำระในฐานะผู้กู้ร่วมด้วย
– ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY): ผู้กู้ต้องมีอายุ 30 ปีขึ้นไป โดยเมื่อรวมอายุกับระยะเวลาผ่อนชำระแล้วต้องไม่เกิน 65 ปี รวมทั้งต้องมีหลักฐานแสดงความสัมพันธ์หรือการอยู่ร่วมกันเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี เช่น ทะเบียนบ้านที่อยู่ด้วยกัน หรือบัญชีเงินฝากที่เปิดร่วมกัน และต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในหลักประกันร่วมกัน
ตัวอย่างธนาคารที่รับพิจารณาการยื่นกู้ร่วมเพศเดียวกันเป็นรายกรณี
– ธนาคารกรุงเทพ (BBL): รับพิจารณาเป็นรายกรณี และมักดูจากระยะเวลาที่อยู่ร่วมกันมา
– ธนาคารกรุงไทย (KTB): รับพิจารณาเฉพาะบางกลุ่มอาชีพ เช่น แพทย์และข้าราชการ
(เช็คเงื่อนไขและธนาคารที่ให้คู่รัก LGBTQ+ กู้ร่วมได้ ที่นี่)
อาจดูเหมือนว่าคู่รัก LGBTQ+ มีสิ่งที่ต้องเตรียมตัวเพิ่มขึ้นจากคู่รักคู่อื่นไม่น้อย แต่ในความจริงแล้วก็ไม่ได้มีขั้นตอนที่แตกต่างกันมากนัก เพราะคุณสมบัติหลักที่จะตัดสินว่าจะกู้ร่วมผ่านหรือไม่ ยังคงเป็นอายุ รายได้ วงเงินกู้ ความสามารถทางการเงิน ภาระหนี้ เป็นต้น
สำหรับใครที่ยังกังวลใจอยู่ หรือแม้แต่จะเริ่มต้นเตรียมเอกสาร ก็เริ่มไม่ถูก Home Financial Planner บริการผู้ช่วยของแสนสิริที่เชี่ยวชาญและพร้อมให้คำแนะนำด้านการวางแผนทางการเงินเพื่อการซื้อบ้าน ก็พร้อมช่วยให้คำปรึกษาเสมอ เพื่อให้คุณได้มีบ้านแสนอบอุ่น และใช้ชีวิตร่วมกันกับคนที่คุณรักไปได้ตราบนานเท่านานอย่างที่วาดฝันไว้