เมื่อพูดถึงสิ่งที่สร้างความหรูหรามีระดับ ความมีราคา และความแพง ในทัศนะของคุณผู้หญิงทั่วไป ก็น่าจะพอรู้ๆ กันพอประมาณว่ามีอะไรที่เกี่ยวข้องได้บ้าง แต่สำหรับหนุ่มวัยฉกรรจ์แล้ว ภาพอะไรแบบนั้นที่เหล่าสุภาพสตรีได้จินตนาการไว้น่าจะต่างกันสิ้นเชิง
ในทางกลับกัน ผมเชื่อว่าหากให้คุณผู้ชายในวัยหนุ่มได้บรรยายภาพของความหรูหรา มีราคา และดูแพง สิ่งที่จะได้ก็คงจะหนีไม่พ้นไอเทมอย่าง รถยนต์หรู Gadget อุปกรณ์ไอทีสุดล้ำ หรือนาฬิกาดูไฮโซ นั่นก็คือเหตุผลว่า ทำไมอยู่ๆ ถ้าคุณจะบอกให้ผู้ชายแมนๆ เตะบอล ที่ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองเท่าไหร่คนหนึ่ง มาบรรยายถึงสิ่งของสวยงามที่คู่กับความหรูหราอย่าง “น้ำหอม” คงไม่ต่างกับการให้คนขายข้าวแกงมาเล่าสาธยายเพื่อให้ขายบ้านหรือคอนโดได้สักยูนิต ที่จะทำให้คนฟังคล้อยตามและยอมควักกระเป๋าซื้อก็น่าจะดูเป็นไปได้ยาก
และเมื่อแสนสิริได้จับมือกับ HERETIC PARFUM แบรนด์น้ำหอมชื่อดังระดับโลกจากประเทศอเมริกาเพื่อร่วมกันสร้างน้ำหอมภายในบ้านแบบฉบับตัวเองออกมา และยิ่งผสมโหมโรงกับไปการที่ไม่ได้เอาตัวเองลงไปสัมผัสกลิ่นตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัวที่ The Monument Thong Lo ก็ต้องสารภาพตรงนี้เลยว่า “ไม่อิน” และยิ่งเมื่อได้ยินว่า ถึงกับต้องเอาเงินหลักเกือบหมื่นเพื่อแลกกับการเอาน้ำหอมขวดเล็กๆ ไปประดับความหรูหราในบ้านแล้ว ก็เกิดเครื่องหมายคำถามขึ้นมาในหัวว่า ต้องขนาดนั้นเลยหรือ?
แต่ในความสงสัยมักมีอะไรซ่อนอยู่เสมอ ลองถอดรหัสเบื้องหลังสิ่งนี้ในสายตาของคน “ไม่อิน” ดูดีกว่า
1.
ทำไมต้อง Home Fragrance น้ำหอมในบ้าน?
“เพื่อนๆ ช่วยแนะนำวิธีไหนให้บ้านไม่มีกลิ่นและหอมตลอดเวลาครับ” Topic ที่ยูสเซอร์ตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ชื่อดัง เปิดประเด็นคำถามเรื่องทั่วไปในชีวิตในแบบที่เราเห็นมักจนชินชาในโลกอินเตอร์เน็ต คือหมัดแรกที่ฮุกเข้ามาให้คนไม่อินอย่างเราฉุกคิดขึ้นมาได้นิดนึงว่า ‘ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราเหมือนกันนี่นา’ ในบรรดาคำตอบจากชาวเน็ตผู้ใจดีกว่าครึ่งล้วนเทใจไปให้กับการใช้ น้ำหอม หรือ เทียนหอม หรือที่เรียกกันสวยๆ ว่า Home Fragrance ซึ่งอมยิ้มอีกหลายท่านยังช่วยแนะนำเสริมอีกด้วยว่า สาเหตุที่ใช้นั่นก็เพราะทำให้ในห้องมีแต่กลิ่นหอมสดชื่น แถมยังช่วยผ่อนคลายสมองชำระล้างอะไรหนักๆ ที่เจอมาในวันได้เป็นอย่างดี ก็เลยทำให้เข้าใจมากขึ้น (นิดนึง) ว่าทำไมต้อง น้ำหอม
2.
HERETIC PARFUM แบรนด์น้ำหอมสุดขบถ ที่ไม่สนใจจารีตประเพณีใดๆ
ขยับหนีจากศูนย์ของความไม่อินเรื่องน้ำหอมได้นิดนึง ก็มาเจอกับชื่อยี่ห้อไม่คุ้นหู Heretic Parfum (อ่านว่า เฮเรทิก พาร์ฟูม) เมื่อทำความรู้จักให้พอคุ้นหูคุ้นตาบ้างก็ทราบมาว่า นี่เป็นแบรนด์น้ำหอมลักซ์ชัวรี่คราฟท์ออร์แกนิกจากประเทศอเมริกา ชื่อ Heretic ก็มีหมายความถึง การไม่ประพฤติตามจารีตประเพณี ไม่แปลกใจเลยว่าถ้าแบรนด์นี้จะทำตัวแปลกแหวกแนวทำตามใจตัวเอง โนสนโนแคร์กับกระแสหลักอยู่เสมอ
และด้วยความหลงใหลในธรรมชาติแบบแยกจากกันไม่ออกของแบรนด์นี้ ทำให้จะมีการปรุงน้ำหอมแบบดั้งเดิมจากหลายร้อยปีก่อน สมัยที่สารสังเคราะห์ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย และเลือกใช้ส่วนประกอบจากธรรมชาติล้วนๆ ผสมผสานในแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากจากองุ่นและอ้อยออร์แกนิค และพอยิ่งลงลึกไปอีกก็ชอบใจมากขึ้นกับความใส่ใจในวิธีการต่างๆ ตั้งแต่การเลือกพันธุ์พืชที่เป็นเอกลักษณ์ของ Heretic Parfum ไปจนถึงการตั้งชื่อกลิ่นน้ำหอมที่คงความขบถและนอกรีต อย่าง Blood Cedar, Holi Water หรือ Dirty Glass นี่ก็เป็นความไม่ธรรมดาที่ย้อนทำให้ผู้เขียนนึกถึงแสนสิริเหมือนกัน
จารีตประเพณีที่ทำตามไม่เป็น นี่คือความเด่นไม่ซ้ำใครของ HERETIC PARFUM
3.
DOUGLAS LITTLE ฮอลลิวูดเซเลบริตี้ นักปรุงน้ำหอม ผู้ก่อตั้งแบรนด์
“ความเสี่ยงในอาชีพการงานที่คุณกล้าทำมากที่สุดคืออะไร?” บทสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งจากบรรณาธิการเว็บไซต์ Eonline ยิงคำถามเปิด ก่อนได้รับคำตอบจาก Douglas Little ว่า “การลาออกจากงานและองค์กรที่มั่นคง เพื่อเดินตามความฝันของตัวเอง มันน่ากลัวจริงๆ” และนั่นคือจุดเริ่มต้นของชายจากลอสแอนเจลิสสู่การก่อตั้งแบรนด์ Heretic Parfum ต้องยอมรับว่าแม้ผู้เขียนจะยังคงไม่อิน แต่เมื่อพอได้ทำความรู้จักไปเรื่อยๆ ก็ทำให้เห็นข้อเท็จจริงที่สำคัญว่า น้ำหอม Heretic Parfum ก็คือ Douglas Little และ Douglas Little ก็คือ น้ำหอม Heretic Parfum ทั้งสองเป็นเหมือนฝาแฝดตัวติดกัน มีเรื่องราวผูกพันเกินกว่าจะแยกออก ถึงขนาดที่พูดได้ว่าถ้าจะยกความอินที่สุดในเรื่องน้ำหอมให้ใคร ชื่อแรกที่ผมนึกถึงคงเป็นเค้าคนนี้แน่ๆ
“Natural fragrances are much like wine in that you can detect nuances of the plant, the soil and its surroundings.
They have a character that cannot be found of achieved with the synthetic copies.
These fragrances are alive, unique and create an olfactory fingerprint.”
ประโยคนี้ของ Douglas ตอกย้ำเราอีกครั้งว่า “ถ้าคนมันจะอิน ไม่ต้องสัมผัส แค่ดมกลิ่นก็เกินพอ”
4.
LUXURY COLLECTION & SIRI HOUSE 2 กลิ่นน้ำหอมในแบบแสนสิริแท้ๆ
เมื่อตัวเองได้ลองเปิดกล่องสี่เหลี่ยมสีดำเข้ม ขวดขนาดกะทัดรัดพร้อมว่า Heretic Parfum ก็โผล่ให้เห็นอยู่ตรงหน้า และเพียงแค่ดึงฝาขึ้นเบาๆ กลิ่นของมวลไม้ที่เชื่อว่าต้องเกิดขึ้นจากการปรุงอย่างพิถีพิถันก็ลอยปะทะหน้าทันที แม้จะไม่ตรงกับจริตอย่างที่เราคิดเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว แต่ชื่อของน้ำหอมทั้ง 2 กลิ่น ก็พอที่จะทำให้เราโดนฮุกจากหมัดที่สองได้เหมือนกัน
ข้อแรก แค่พอได้ทราบว่าเบื้องหลังของน้ำหอมนี้ Douglas Little ตั้งใจปรุงเพื่อแสนสิริโดยเฉพาะก็ ‘ว้าว’ แล้ว ยังมีการใช้ Luxury Collection และ SIRI House มาตั้งเป็นชื่อของกลิ่นแล้ว ยิ่งทำให้เราทึ่งกับความจริงจังในแบบแสนสิริเป็นเท่าตัว
ข้อสอง เรื่องของกลิ่นที่แม้เราจะยอมรับว่าไม่ค่อยอินกับเรื่องความหอม แต่ความพิถีพิถันในการร่วมกันสร้างสรรค์น้ำหอมออกมาของแสนสิริและ Douglas Little ทั้งการใช้พรรณไม้และสมุนไพรจากไม้เมืองร้อน ผสมกับกลิ่นผลลูกมะเดื่อที่ใกล้สุกงอม ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับกลิ่นหอมของ Bergamot, Vetiver และ Geranium ก็เพียงพอจะทำให้เราอินในแบบคนแสนสิริแล้ว
ถ้าหมัดเด็ดที่สองยังทำให้ “อิน” ไม่พอ ข้อต่อไปต้องบอกว่าโดนจนเกือบน็อค
5.
น้ำหอมหรูที่ต้องคู่กับ ที่อยู่ระดับ LUXURY
คำที่บอกว่า “แสนสิริ เข้าใจในทุกรายละเอียดความต้องการของลูกบ้าน จึงไม่เคยหยุดนิ่งที่จะรังสรรค์บริการและองค์ประกอบที่ช่วยเติมเต็มรสนิยมของการอยู่อาศัยอยู่เสมอ” ไม่ใช่อะไรที่อ้างเกินความจริง เพราะนี่คือสิ่งที่แสนสิริทำจริง ลงมือจริง และเกิดขึ้นจริง อย่าง Sansiri Luxury Collection ซึ่งเป็นคอลเล็กชั่นของการรวมโครงการที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่และแฟล็กชิพ ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ในแบบฉบับของแสนสิริที่สร้างสรรค์ขึ้นจากประสบการณ์ตลอด 35 ปี และสิ่งที่แสนสิริยกมานำเสนอนั้น หลายครั้งที่คาดไม่ถึงแถมยังเต็มไปด้วยคำว่าว้าว ไม่ต่างกับหมัดเด็ดสุดท้ายที่ฮุกตรงกับเราแบบจังๆ
น้ำหอมกลิ่น Luxury Collection ที่แสนสิริได้หยิบยกมานำเสนอครั้งนี้ คือภาพสะท้อนที่บอกกับเราว่า แสนสิรินั้นเข้าใจถึงความปรารถนาอันลึกซึ้งของรสนิยมการใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ และตีความออกมาในรูปแบบกลิ่นหรือเซ้นท์คัดสรรค์วัตถุดิบที่หลากหลายสะท้อนคาแรกเตอร์ของทุกโครงการใน Sansiri Luxury Collection ได้เป็นอย่างดี
ทำให้น้ำหอม Home Fragrance กลิ่น Luxury Collection ถูกตั้งใจสร้างสรรค์มาเพื่อนำเสนอลูกบ้านของแสนสิริที่ THE MONUMENT Thong Lo คอนโดมิเนียมไลฟ์สไตล์ตอบโจทย์การใช้ชีวิตใจกลางเมือง, 98Wireless แฟล็กชิพคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่บนถนนวิทยุ, KHUN by yoo inspired by Starck Branded Residence คอนโดมิเนียม และโครงการลักซ์ชัวรี่อื่นๆ และนั่นคือความตั้งใจแบบเว่อร์วังไม่เหมือนใคร ที่ใครไม่อินก็ไม่รู้จะโฆษณาชวนเชื่อยังไงแล้วล่ะ
แม้จะต้องขอยอมรับแต่โดยดีว่าเรื่องน้ำหอมคงยังไม่สามารทำให้อินได้ภายในสามวัน เจ็ดวัน แต่ถ้าในเรื่องของความใส่ใจในทุกรายละเอียดที่ไม่เคยหยุดนิ่ง คุณค่าของเวลาและประสบการณ์การใช้ชีวิต แม้ในเรื่องเล็กๆ แบบไม่ต้องมีก็ได้ของแสนสิริ คือสิ่งที่ทำให้เรา “อิน” เสียยิ่งกว่าดูบอลคู่บิ๊กแมทช์เสียอีก