Pets Return to the Stars :
ให้เวลาเยียวยาจิตใจ
เมื่อสัตว์เลี้ยงเดินทางกับดาว

เมื่อสัตว์เลี้ยงที่เรารักเดินทางกลับดาวอาจเป็นเรื่องยากที่จะทำใจ
เราจึงต้องให้ “เวลา” กับตัวเองเพื่อรักษาใจให้เข้มแข็ง
และกลับมายิ้มได้ในเร็ววัน 

เวลาที่สัตว์เลี้ยงของเราออกเดินทางไปแสนไกล จากไปโดยไม่มีวันหวนกลับเราทุกคนคงเสียใจไม่ต่างกับการที่เราต้องจากลาจากคนที่รัก ถึงแม้การตายจากกันไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ก็เป็นธรรมชาติที่เราทุกคนต้องพบเจอ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การต้องลาจากสัตว์เลี้ยงที่เรารักเหมือนคนในครอบครัว ก็ยังทำให้ความเสียใจยังคงเกาะกุมหัวใจของคนประสบกับเหตุการณ์นี้อยู่ดี และเชื่อว่าหลายคนก็ยังหวังให้พวกเขามีชีวิตที่มีความสุขไม่ว่าพวกเขาจะไปอยู่บนดาวดวงไหนก็ตาม 

ถึงแม้การสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่เรารักอาจจะเป็นเรื่องน่าเศร้า และคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น อาจจะต้องให้เวลาตัวเองได้ทำใจ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าไม่ต้องพยายามเข้มแข็งเพื่อให้รีบลืม ให้เราคิดถึงเขาในจุดที่เรารับไหว พยายามเปลี่ยนมุมมองความคิดว่าสัตว์เลี้ยงของเราได้ไปอยู่ในที่สบายและมีความสุข ไม่ต้องทุกข์ ไม่ต้องเศร้า หรือเจ็บป่วยอีก เพราะเราเชื่อว่าเวลาจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นและความรู้สึกเศร้าจะจางหายไปเหลือเพียงแค่ความทรงจำดีๆ ที่เราจะจดจำไปตลอด

ทุกคนรู้ไหมว่ามีผลสำรวจจาก The Harris Poll ในรายงาน “The State of Pets: Unpacking America’s Pet Preferences” ของประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า คนที่รักสัตว์เลี้ยงยอมแลกอายุขัยของตัวเองเพื่อให้สัตว์เลี้ยงของเขามีอายุที่ยืนยาวขึ้น ถึง 63% เลยทีเดียว ซึ่งทำให้เห็นว่าสัตว์เลี้ยงไม่ใช่แค่เพื่อนคลายเหงา แต่เป็นเหมือนสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัวที่เจ้าของรักมาก 

วันนี้ Mental Life by Chanisara จะพาทุกคนมาฮีลใจเมื่อสัตว์เลี้ยงที่เรารัก ลาจากโลกนี้ไป เรื่องเล่าเกี่ยวกับสะพานสายรุ้งที่จะนำพาพวกเรามาพบกันอีกครั้ง และเราจะมาบอก 7 ระยะทำใจพี่คนสูญเสียสัตว์เลี้ยงต้องพบเจอ รวมถึงวิธีเยียวยาจิตใจตัวเองให้กลับมาสดใสเมื่อน้องหมาน้องแมวกลับดาวกันค่ะ

 Pets Return to the Stars

เมื่อสัตว์เลี้ยงที่เรารักเดินทางกลับดาว

เมื่อสัตว์เลี้ยงที่เรารักเสียชีวิตลง เราทุกคนต้องเศร้าเสียใจและเจ็บปวด คงไม่มีใครอยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิต แต่การตายจากกัน ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ ฉะนั้นหากเกิดขึ้นกับเรา เราก็ควรให้เวลาเป็นเครื่องเยียวยาจิตใจ ถึงวันนี้เราอาจจะไม่มีน้องหมาที่คอยมาวิ่งเล่นกับเรา ให้กำลังใจเรา หรือปลอบโยนเราเหมือนเมื่อก่อน ไม่มีน้องแมวที่คอยมาคลอเคลียเรา มาอ้อนเรา

แต่การที่เขาจากไปให้เราคิดเสมอว่า เขาได้ไปสบาย ไปอยู่ในที่ที่สงบสุข เราเชื่อว่าสักวันเราจะได้พบเจอกันอีกครั้ง…เมื่อถึงเวลา 

แล้วเราจะพบน้องหมา – น้องแมวอีกครั้งที่สะพานสายรุ้ง

เขาว่ากันว่าเมื่อสัตว์เลี้ยงของเราตายไป พวกเขาจะเดินทางไปยังอีกที่หนึ่งที่เรียกว่า ดินแดนสรวงสวรรค์ที่มีทุ่งหญ้า มีเนินเขาให้วิ่งเล่นอย่างสนุกสนาน ที่นั่นจะมีน้ำ อาหาร และแสงแดด ที่หล่อเลี้ยงชีวิต สัตว์เลี้ยงทุกตัวที่เจ็บป่วยหรือไม่แข็งแรงจะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ที่นั่นจะมีแต่ความสุข เป็นสถานที่ที่สัตว์เลี้ยงอยู่รอเรา เพื่อรอวันที่จะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง และเมื่อเราลาจากโลกใบนี้ไป สัตว์เลี้ยงกับเจ้าของจะได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง

 หากใครเคยดูซีรีส์เรื่อง “Heavenly Ever After” ในตอนที่ 2 ที่ได้นำเอากวีสะพานสายรุ้ง มาหลอมรวมอยู่ในบทซีรีส์เรื่องนี้ด้วย อาจจะเห็นภาพมากขึ้น

เรื่องของกวีสะพานสายรุ้ง ที่สัตว์เลี้ยงจะไปรอเจอเจ้าของ เป็นเรื่องราวที่ถูกพูดถึงกันอย่างมาก โดยคุณ Edna Clyne-Rekhy ชาวสกอตแลนด์ แต่งขึ้นในปี 1959 จากการเดินทางกับดาวของสุนัขที่ชื่อ เมเจอร์ โดยเขาได้แต่งกวีขึ้นเพื่อมาปลอบประโลมหัวใจให้เข้มแข็งอีกครั้ง เพื่อให้เรามีความหวังว่าเราจะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง และสามารถฟื้นฟูจิตใจของเราให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติค่ะ

ทำไมถึงใช้คำว่า “น้องหมา น้องแมว” เดินทางกลับดาว 

หากถามว่าทำไมถึงใช้ คำว่า “น้องหมา น้องแมว กลับดาว” เพราะ คำนี้ทำให้คนที่ได้ยินเศร้าน้อยลง ถึงแม้น้องหมาน้องแมวจะไม่ได้กลับไปอยู่บนดาวจริงๆ แต่หมายถึงเป็นการเปรียบเปรยว่าพวกเขาไปอยู่ในที่ที่มีความสุขขึ้นจะทำให้คนที่อยู่นั้นเศร้าน้อยลง

แล้วทุกคนรู้ไหมว่าบนฟ้ามีดาวหมา ดาวแมว อยู่จริงด้วยนะ โดยน้องหมานั้นมีชื่อว่า ดาวซิริอุส (Sirius) ซึ่งดาวชนิดนี้จัดเป็นดาวกฤษ์ที่สว่างที่สุด อยู่ในกลุ่มดาวหมาใหญ่  (Canis Major) และมีรูปร่างหน้าตาคล้ายน้องหมา 

ในส่วนของดาวแมว หลายคนเรียกว่า “ดาวแมวป่า” หรือ ภาษาละตินเรียก “Lynx” มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนแมว พบเห็นได้ ในทวีป เอเชียตอนเหนือ ยุโรป แคนาดานั่นเองค่ะ

7 ระยะทำใจ…เมื่อสัตว์เลี้ยงกลับดาว

ระยะที่ 1 ตกใจและปฏิเสธความจริง (Shock and Denial) หลังจากการสูญเสียก็อาจจะรู้สึกว่าอยากให้เรื่องนี้เป็นแค่ฝัน ไม่ใช่ความจริง  เราจะปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น และบางคนอาจจะยอมรับไม่ได้ อยู่ในภาวะโศกเศร้า ใจสลายยิ่งกว่าอกหัก

ระยะที่ 2 รู้สึกเจ็บปวดและรู้สึกผิด (Pain and Guilt) เวลาผ่านไปสักพัก เราจะเริ่มรู้สึกโกรธ รู้สึกโทษตัวเองหรือไม่ก็คนอื่น ว่าเราเลี้ยงเขาไม่ดีพอ ดูแลเขาไม่ดีพอ พยายามหายเหตุผลว่าทำไมเขาถึงจากไป ดังนั้นเราต้องพยายามไม่โทษคนอื่น พยายามยอมรับความจริงและโอบกอดตัวเองให้ได้

ระยะที่ 3 เจรจาต่อรอง (Bargaining) เราจะเริ่มหาเหตุผลที่ทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น เช่น น้องหมาน้องแมว ไปสบายแล้ว ไม่ต้องเจ็บไม่ต้องปวดแล้ว

ระยะที่ 4 รู้สึกซึมเศร้า นึกถึง และเหงา (Depression, Reflection, and Loneliness) เราจะรู้สึกเสียใจ โศกเศร้าแล้วกลับไปคิดถึงสัตว์เลี้ยงอีกครั้ง จะคิดถึงความทรงจำเก่าๆ ที่มีร่วมกัน ถ้ารู้สึกไม่ไหวควรไปพบจิตแพทย์

ระยะที่ 5 เริ่มปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตได้ (Adjustment to Life) เริ่มรู้สึกปรับตัวได้ เข้าใจชีวิตมากขึ้น และเริ่มกลับมามีความสุขได้อีกครั้ง หรือบางคนอาจจะเริ่มคิดหาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ แต่ต้องไม่ใช่เพราะต้องการตัวใหม่มาแทนที่ตัวเดิม 

ระยะที่ 6  ใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ (Your New Normal) เราจะเริ่มใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ สามารถกลับมาเป็นตัวเองที่มีความสุขอีกครั้งได้ และย้ายสัตว์เลี้ยงตัวนั้นไปอยู่ในความทรงจำ

ระยะที่ 7 ยอมรับความจริงและเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น (Acceptance and Hope) เข้าใจและยอมรับว่ามันเป็นธรรมชาติของชีวิต และกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ 

How to วิธีเยียวยาจิตใจให้กลับมาสดใส…เมื่อสัตว์เลี้ยงกลับดาว

ปล่อยให้ตัวเองเสียใจได้ 

ระบายความรู้สึกเสียใจให้เต็มที่ อย่ากดความรู้สึกไว้ ไม่ผิดถ้าเราร้องไห้ เพราะการร้องไห้จะทำให้เรารู้สึกดีขึ้น

ให้เวลากับตัวเองได้ทำใจ 

ให้เวลาตัวเองได้เสียใจ โดยไม่ต้องรีบให้ตัวเองหายดี และให้เวลาคอยรักษาจิตใจตัวเอง

หยุดโทษตัวเองว่าเลี้ยงเขาไม่ดี 

อย่าโทษตัวเองว่าเลี้ยงเขาไม่ดีพอ เพราะการตายเป็นเรื่องธรรมชาติ ที่เราไม่สามารถควบคุมได้

อย่าเอาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่มาเลี้ยงทันที 

อย่านำสัตว์อื่นมาเลี้ยงทันที ให้ระยะเวลาห่างออกไปสักพัก และถามใจตัวเองดูว่าเราอยากเลี้ยงตัวใหม่จริงๆ หรือเราแค่อยากเลี้ยงเขาแทนที่ตัวเก่า เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เราอาจจะเกิดการเปรียบเทียบกับตัวเก่าได้

ระบายความรู้สึกกับใครสักคน อย่าเก็บไว้คนเดียว 

ถ้ารู้สึกเศร้าใจมากให้ไประบายกับใครสักคนที่ทำให้คุณรู้สึกสบายใจ

หาอะไรทำให้หายเศร้า 

หากิจกรรมใหม่ทำ เพื่อทำให้เราไม่ไปคิดถึงเรื่องที่สูญเสีย เช่น ออกไปเจอเพื่อน ออกไปเที่ยว ออกไปทำกิจกรรมต่างๆ

 

ถึงแม้การสูญเสียสัตว์เลี้ยงจะเป็นเรื่องยากที่จะทำใจ แต่เราทุกคนต้องดำเนินชีวิตต่อไป และไม่ต้องรีบที่จะทำให้จิตใจของเราเข้มแข็ง แต่ให้เวลาเป็นสิ่งที่รักษาใจให้เราดีขึ้นนั่นเองค่ะ


Source

https://thonglorpet.com/petdiary/tl-diary-rainbowbridge 

https://petplease.co/blogs/journal-pets/7-ways-coping-death-your-pet/ 

https://thaiastro.nectec.or.th/library/article/cat-star/ 

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=413819717122902&id=114176047087272&set=a.130748515430025 

https://www.petfoodindustry.com/pet-food-market/ https://www.facebook.com/PetSOULciety/posts/ 

https://centerforpetlossgrief.com/grief-and-loss-stages-for-pet-loss/ 

 

Related Articles

Harmony Hour Music Playlist

Music Therapy : พลังแห่งดนตรีที่ช่วยเยียวยาร่างกายและหัวใจ

“เสียงดนตรี” เป็นเสียงที่ทรงพลังช่วยฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ให้กลับมาแข็งแรง สดใสและมีความสุขกับการใช้ชีวิต ทุกคนเชื่อไหมคะว่าเสียงดนตรีมีพลังกว่าที่ทุกคนคิด หากถามว่าเสียงดนตรีมีพลังยังไงนะหรอ ต้องบอกว่ามนุษย์เชื่อว่า เสียงดนตรีช่วยฟื้นฟู เยียวยาจิตใจของเราได้ตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ เพราะคนในสมัยก่อนเชื่อกันว่าดนตรีสามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายที่จะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้และยังเชื่ออีกว่าดนตรีจะสามารถปรับสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจของเราได้อีกด้วย ซึ่งสอดคล้องกับการวิจัยทางวิทยาศาสตร์การแพทย์และทางจิตวิทยาที่บอกว่าการใช้ดนตรีบำบัดสามารถช่วยเยียวยาร่างกายและจิตใจมนุษย์ได้อย่างแท้จริง หลายคนเคยสงสัยไหมคะว่าทำไม เวลาเราได้ฟังดนตรีสบายๆ เราจะรู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกว่าความเครียดลดลงอย่างน่าประหลาด เหมือนมีกุญแจมาช่วยปลดล็อกความว้าวุ่นภายในใจให้เบาบางลง เสียงดนตรีธรรมดาที่ไม่มีคนร้อง แต่กลับกล่อมเกลาจิตใจ ให้สงบลง หรือปลุกพลังให้เรามีเอนเนอจีในตอนเช้า

Because truth is timeless

Because truth is timeless: เพราะการพูดความจริงแสดงถึงความจริงใจและรักษาความสัมพันธ์ให้มั่นคง

การพูดความจริงเป็นการแสดงถึงความซื่อสัตย์ จริงใจ และเป็นการโอบอุ้มความสัมพันธ์ให้มั่นคง ทุกคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย” และคงไม่มีอะไรทำลายความจริงได้ใช่ไหมล่ะคะ ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม ต่อให้จะมีใครพยายามบิดเบือนความจริง แต่ความจริงก็ยังคงอยู่ และรอวันที่จะเปิดเผยออกมา  เราเปรียบความจริงกับท้องฟ้าที่ต้องผ่านพายุฝน ท้องฟ้าอาจจะมืดมน ไม่สดใส และมีเมฆมาปกคลุม แต่เมื่อพายุผ่านไปฝนหยุดตก ท้องฟ้าจะกลับมาสดใสดั้งเดิม และบางครั้งอาจจะมีสายรุ้งที่ปรากฏขึ้นมาให้เห็นถึงความสวยงามด้วย ต่อให้ท้องฟ้าจะมืดมนขนาดไหนก็กลับมาสดใส เหมือนกับที่ไม่มีอะไรมาทำลายความจริงได้  หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าการพูดความจริงเป็นรากฐานที่จะทำให้ความสัมพันธ์มั่นคงและยิ่งยืนนาน

half-year-resolution

Half-year resolution : บทเรียนชีวิตที่ได้จากครึ่งปีแรก

เราอาจไม่ได้ประสบความสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงมือทำ แต่ถ้าเราพยายามทำต่อไปด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้  เราจะเดินถึงเป้าหมายได้ในที่สุด เผลอแป๊ปเดียวพวกเราทุกคนเดินทางผ่านมาครึ่งปีแล้ว ตอนต้นปีมีใครตั้งเป้าหมายอะไรไว้กันบ้างคะ? บางคนอาจเดินถึงเป้าหมาย บางคนกำลังเดินทางไปสู่เป้าหมายที่วาดไว้ แต่เราเชื่อว่า บางคนรู้สึกว่าเป้าหมายที่ตั้งไปในช่วงต้นปีอาจไม่ได้สำเร็จอย่างที่เราคาดหวังไว้หรือเป้าหมายที่เราตั้งไว้อาจเลือนรางเต็มที แต่ไม่เป็นไรเลย เพราะชีวิตคนเราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ  ทุกคนรู้ไหมคะการตั้งเป้าหมายใหม่อาจไม่ได้หมายความว่าต้องเริ่มจากศูนย์เสมอไป แต่เราอาจจะนำสิ่งที่เราทำและอาจจะไม่ประสบความสำเร็จ มาทบทวน พัฒนาและปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้เราเดินไปสู่เป้าหมายที่เราวางไว้ เพราะเราเชื่อว่าความสำเร็จอาจจะไม่ได้เกิดจากครั้งแรกที่ลงมือทำ แต่ถ้าหากเราพยายามต่อไปเรื่อยๆ ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ เราจะเดินถึงเป้าหมายในที่สุดค่ะ คนเราทุกคนกว่าที่จะประสบความสำเร็จกับสิ่งที่เราตั้งเป้าหมายไว้