ผ่อนบ้านยังไง
ให้หมดไวกว่ากำหนด?

หลายๆ คนที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ ก็อยากจะผ่อนให้หมดเร็วๆ กันใช่ไหม มาถูกที่แล้ว แสนสิริ บล็อกจะมาบอกวิธีที่จะช่วยให้เราผ่อนบ้านให้หมดเร็วขึ้น แถมยังลดค่าดอกเบี้ยไปได้เยอะอีกด้วย

Anasiri, อณาสิริ, แสนสิริ

ชำระเกินทุกงวด

ข้อแรกเลย คือต้องพยายามชำระเกินทุกงวด เพราะปกติแล้ว ธนาคารจะกำหนดอัตราสินเชื่อที่อยู่อาศัยในอัตราที่ต่ำสุดสมมุติว่า เราซื้อบ้านราคา 2,000,000 บาท ทำเรื่องกู้เต็ม max ที่ 30 ปี ก็จะถูกคิดดอกเบี้ยคงที่ 5.9% และผ่อนต่อเดือนอยู่ที่ 12,000 บาทซื้อบ้านราคา 2,000,000 บาท

แต่ถ้าเรามีเงินเหลือและโปะเงินผ่อนต่อเดือนเพิ่มเป็น 17,500 บาท ก็จะช่วยให้เราลดเวลาที่เป็นหนี้กับธนาคารเหลือแค่ประมาณ 14 ปีเลยทีเดียว จะเห็นได้ว่า หากเราเพิ่มเงินเดือนละ 5,500 บาท แต่ประหยัดทั้งดอกเบี้ย และระยะเวลากู้ลงไปครึ่งหนึ่งเลย

• ผ่อน 12,000 บาท/เดือน = ผ่อนทั้งหมด 30 ปี
• จ่ายเพิ่มเดือนละ 5,500 บาท = ผ่อน 17,500 บาท/เดือน
จากผ่อนบ้าน 30 ปี เหลือแค่ทั้งหมด 14 ปี เท่านั้น!

โปะบ้านช่วงดอกเบี้ยลด

มาต่อกันที่ข้อสอง โปะบ้านช่วงดอกลด นั่นก็เพราะในช่วง 3 ปีแรก เป็นช่วงที่ธนาคารคิดเรทอัตราดอกเบี้ยต่ำ ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการโปะบ้านอย่างยิ่ง เพราะทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยจะปรับลดลง ทำให้เราผ่อนบ้านให้หมดได้เร็วขึ้น

Refinance หรือ Retention

ข้อสาม ก็คือ การ Refinance หรือ Retention เพื่อขอปรับดอกเบี้ยให้ลดลงได้ ซึ่งความแตกต่างของสองอันนี้ก็คือ

• Refinance คือการย้ายหนี้จากธนาคารเดิม ไปธนาคารใหม่ เพื่อให้อัตราดอกเบี้ยถูกกว่าที่เดิม สามารถปิดหนี้ได้เร็วขึ้น พูดง่ายๆก็คือเปลี่ยนธนาคารที่จะกู้

• Retention จะเป็นวิธีปรับดอกเบี้ยให้ลดลงด้วยการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่กับธนาคารเดิม ถ้าเรามีประวัติการผ่อนบ้านดีมาตลอด ไม่เคยผิดนัดชำระ จ่ายตรงตลอด โอกาสที่ธนาคารจะอนุมัติเพื่อปรับลดดอกเบี้ยก็ง่ายขึ้น แบบไม่ต้องย้ายธนาคารให้เสียค่าธรรมเนียมใหม่

ทั้ง 2 วิธี เราต้องดูว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยครบ 3 ปียัง หรือตามสัญญาที่ธนาคารกำหนดไว้ไหม เพราะถ้ายังไม่หมดสัญญา เราอาจต้องจ่ายค่าปรับตามที่ธนาคารกำหนดไว้

ไม่สร้างหนี้เพิ่ม

มาถึงข้อที่ 4 ง่ายๆ เลยแต่อาจจะทำได้ยาก คือ การไม่สร้างหนี้เพิ่ม วิธีนี้จะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าเรามากยิ่งขึ้น เพราะถ้าเรายังมีหนี้ต่างๆ เช่น บัตรเครดิต รถยนต์ หรือสินเชื่อ คงเป็นเรื่องยากที่จะผ่อนบ้านให้หมดในเวลาที่รวดเร็วอาจจะทำให้เราท้อได้

โปะด้วยเงินก้อน

ข้อสุดท้ายคือ โปะด้วยเงินก้อน หากเราเป็นพนักงานบริษัทเมื่อถึงปีจะมีปันผล เงินโบนัส หรือได้เงินอั่งเปา เงินพิเศษต่างๆ มาโปะเพิ่มตรงนี้ก็จะช่วยกับวิธีข้างต้นทำให้เราผ่อนบ้านได้สำเร็จเร็วขึ้นอีกด้วย

เห็นแบบนี้แล้ว ถ้าเราทำทุกอย่างตามที่แสนสิริ บล็อกแนะนำ ก็จะช่วยให้ไม่ต้องผ่อนบ้านยาวนานถึง 30 ปี และไม่ต้องเสียดอกเบี้ยมากมาย เพียงแค่เพิ่มเงินไม่มากจากที่จ่ายอยู่ หรือทำตามทุกข้อนี้รับรองจะปลดภาระได้ในเร็ววันแน่นอน

CONTRIBUTOR

Related Articles

มาตราการอสังหา 2567

วางแผนซื้อบ้านต้องรู้! มาตรการอสังหาฯ ปี 2567 ช่วยยังไงบ้าง?

สานฝันคนอยากมีบ้านกับมาตรการอสังหาริมทรัพย์จากภาครัฐ ปี 2567  ที่ออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ และสนับสนุนให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง วันนี้ เราจะมาพูดถึงมาตรการที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังจะวางแผนซื้อบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าโอนและจดจำนองที่อยู่อาศัย ลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมจากการปลูกสร้างบ้าน (ล้านละหมื่น) หรือสินเชื่อบ้าน โดย ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งรายละเอียดแต่ละมาตรการจะเป็นอย่างไร มาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ เริ่มจาก “มาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567”

ค่าใช้จ่ายซื้อบ้าน 2566

อัพเดตล่าสุด! ซื้อบ้าน ปี 2567 ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง?

เก็บเงินมาได้สักพัก ถึงเวลาทำความฝัน “ซื้อบ้าน-คอนโด” ของตัวเองสักหลังให้เป็นความจริงสักที แต่ๆๆ ก่อนจะไปลุยคว้ามา ต้องมาเช็กความพร้อมเรื่องค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เราต้องเตรียมการกันก่อน วันนี้เรามาอัพเดทกันดีกว่า ในปี 2567 นี้ ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และที่สำคัญภาครัฐฯ มีมาตรการช่วยคนซื้ออสังหาริมทรัพย์อะไรหรือไม่อย่างไร พร้อมแล้วไปอัพเดทกันเลย! ค่าจองและทำสัญญา เป็นค่าใช้จ่ายก้อนแรกสำหรับวางมัดจำ ขึ้นอยู่แต่ละโครงการ ส่วนใหญ่บ้านจะแพงกว่าหลักหมื่นขึ้นไป

วางแผนยื่นภาษี ฉบับคนมีคู่...สมรส

วางแผนยื่นภาษี ฉบับคนมีคู่…สมรส

สมัยก่อนอยู่ตัวคนเดียว ทำอะไรคนเดียว ยื่นภาษีก็ทำได้เพียงแบบเดียว แต่ครั้นพอแต่งงานแล้ว มีคนอีกคนเข้ามาเป็นคู่ชีวิต มาแชร์สิ่งต่างๆ ในทุกๆ วัน ซื้อบ้านหลังอบอุ่นด้วยกัน แม้แต่การยื่นภาษีก็มีทางเลือกมากขึ้นด้วยเช่นกัน เดือนแห่งความรักเวียนมาถึงทั้งที แสนสิริเอาใจคนมีคู่(สมรส) ด้วยเรื่องราวที่คู่สมรสทุกคู่จะไม่รู้ไม่ได้! นั่นก็คือการยื่นภาษีในวันที่มีใครอีกคนหนึ่งก้าวเข้ามาเป็นอีกครึ่งชีวิตของคุณแล้วนั่นเอง ยิ่งในช่วงมกราคม – มีนาคมแบบนี้ ยังเป็นช่วงการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีด้วยเช่นกัน ว่าแต่จะ “ยื่นแยกกัน”