ฝันให้ไกล ไปให้ถึง: สวนลอยฟ้า
ที่พาทุกคนมาติดดิน

เชื่อว่าก่อนจะยอมควักเงินเป็นล้านเพื่อซื้อบ้านหรือคอนโดสักที่ แต่ละคนน่าจะต้องคิดแล้วคิดอีก และศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้ที่อยู่ที่ใช่มาพร้อมกับการดูแลจากแบรนด์ที่ถูกใจและยังต้องส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีด้วย จึงทำให้เกิด For Greater WellBeing วิสัยทัศน์ที่ผลักดันให้แสนสิริกล้าคิด กล้าฝัน กล้าออกจากกรอบและกล้าลองของใหม่ เพื่อสร้างชีวิตที่ดีกว่าอยู่เสมอ

ก่อนหน้านี้ Sansiri Green Mission ได้สร้างจุดเปลี่ยนและเทรนด์ที่ทำให้แวดวงธุรกิจอสังหาฯ หันมาใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ตามมาด้วยโปรเจคสายกรีนต่อเนื่องอย่าง Sansiri Tree Story ที่มองเห็นคุณค่าความสำคัญของต้นไม้ไม่น้อยไปกว่าสิ่งปลูกสร้างอย่างบ้าน จึงเก็บรักษาและดูแลต้นไม้ในบริเวณโครงการเป็นอย่างดีเพื่อส่งมอบคุณค่าให้คงอยู่ตลอดไปนั้นประสบความสำเร็จและได้รับการตอบรับที่ดี แต่อย่าคิดว่าแสนสิริจะหยุดคิดหยุดสร้างฝันเพียงแค่นั้น

Sansiri-backyard-sansiri-blog-17

ธุรกิจอสังหาฯ ที่ไม่ได้สร้างแค่ “ที่อยู่” แต่สร้าง “ความเป็นอยู่”

ถ้าเปิดเฟสบุค ไอจี ทวิตเตอร์หรือโซเชียลมีเดียออนไลน์ต่าง ๆ ในช่วงนี้ ก็จะเห็นโพสต์หรือภาพผู้คนที่หันมากินอาหารคลีน เข้าฟิตเนสออกกำลังกาย ใส่ใจสุขภาพและโหยหาธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เพราะการ “รัก(สุขภาพ)ตัวเอง” กำลังเป็นเทรนด์มาแรงของไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ จึงเป็นโจทย์สำหรับแสนสิริว่า เราจะมีส่วนในการช่วยส่งต่อความเป็นอยู่ที่ดีและใกล้ชิดธรรมชาติให้กับลูกบ้านของเราได้อย่างไร

ด้วยดีเอ็นเอสาย Green บวกกับแนวคิดที่จะไม่หยุดพัฒนามาตรฐานความเป็นอยู่ที่ดีที่สุด จึงเกิดเป็น Sansiri Backyard โปรเจคที่ไม่ยอมปล่อยให้พื้นที่เหลือใช้ของโครงการที่ไม่ว่าจะอยู่บนพื้นราบหรืออยู่สูงแค่ไหนให้โดนเม็ดฝนหยดใส่ ลมพัดผ่าน หรือแสงแดดสาดส่องมาอย่างไร้ค่า เพราะสำหรับแสนสิริพื้นที่ทุกตารางนิ้วนั้นสร้าง Greater Well-Being ให้กับผู้คนได้

“สวนผัก” ใกล้ยิ่งกว่าที่คิด ชิดยิ่งกว่าที่เคย

หากพูดถึงพื้นที่สีเขียวในพื้นที่ส่วนกลางโครงการบ้านหรือคอนโดต่าง ๆ ก็คงหนีไม่พ้นสวนหย่อม สนามหญ้า สวนดอกไม้ประดับที่เราพบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะภายในโครงการแนวราบหรือแนวสูง แต่ครั้งนี้แสนสิริจะเปลี่ยนพื้นที่เหลือใช้ของโครงการให้เป็นสวนผักกินได้นานาชนิด

Sansiri Backyard ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปหลบอยู่ที่หลังบ้าน แต่เป็นพื้นที่สีเขียวซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับชีวิตของผู้อยู่อาศัยมากขึ้น และคือก้าวสำคัญของวิสัยทัศน์ For Greater Well-Being”

จริยา จันทร์เจิดศักดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาผลิตภัณฑ์

Sansiri-backyard-sansiri-blog-16

โปรเจคนี้เริ่มมาจากภายในองค์กรที่ให้พนักงานปลูกต้นไม้เล็ก ๆ บนโต๊ะทำงานด้วย Table Farm Kit เพราะเชื่อว่าไม่ว่าใครอยู่ที่ใดก็ใกล้ชิดธรรมชาติได้ และกลายมาเป็นการพัฒนาพื้นที่เหลือใช้ในโครงการของแสนสิริ 20 โครงการทั้งแนวราบและแนวสูงเป็นสวนผักเอาใจคนยุคใหม่ที่รักสุขภาพ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการทานผักปลอดสารพิษ ซึ่งมีทั้ง ผักบุ้ง กะเพรา กรีนคอส กรีนโอ๊ค บัตเตอร์เฮด กวางตุ้ง อัญชัญ แตงกวา ตะไคร้ โหระพา ต้นหอม ผักกาดหอมหรือผักสลัด ที่ผ่านการเลือกสรรและคิดมาแล้วว่าจะต้องจัดวางตำแหน่งอย่างไรให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ขณะเดียวกันก็สวยงามมีสีสันสร้างชีวิตชีวา และที่สำคัญต้องมีศัตรูพืชน้อย เติบโตได้ดีทั้งในแสงแดดหรือพื้นที่กึ่งร่มด้วย

Sansiri Backyard จะชวนมา Green Grow Give ไปด้วยกัน 

Sansiri-backyard-sansiri-blog-15

Green พื้นที่สีเขียวที่แสนสิริต้องการสร้างจากพื้นที่เหลือใช้ทุกส่วนทั้งกลางแจ้งหรือในอาคาร นอกจากจะดีในแง่ของการใกล้ชิดวิวธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังช่วยสร้างออกซิเจนเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ให้กับปอดของคนเมืองมากยิ่งขึ้น 

Grow ปลูกพืชผักเพื่อเติมเต็มประโยชน์ใช้สอยบนพื้นที่ว่าง และยังปลูกมิตรภาพเพื่อเติมเต็มความสัมพันธ์ของผู้คนให้เป็นคอมมูนิตี้แบบยั่งยืนในเมืองใหญ่ที่ลูกบ้าน พนักงาน ชุมชนใกล้เคียงและผู้ที่สนใจสามารถใช้เวลาและสถานที่ร่วมกันในการปลูกผัก

Give ผลผลิตที่ได้จะแบ่งปันในครอบครัวลูกบ้านแสนสิริในโครงการที่มี Sansiri Backyard โรงเรียนรอบข้างเพื่อให้เด็ก ๆ ได้ทานผักปลอดสารพิษ ทั้งยังขยายไปสู่ชุมชนใกล้เคียงที่อยากเรียนรู้และสัมผัสการมีชีวิต Well-Being แบบแสนสิริ รวมถึงเป็นพื้นที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนที่มาสัมผัสสามารถสร้างสรรค์พื้นที่สีเขียวในบ้านของตนเอง

นอกจากนี้ผลผลิตส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ที่ SIRI HOUSE โรงแรมเอสเคป หัวหินและเขาใหญ่ เพื่อเปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้ลิ้มลองผักปลอดสารพิษเหล่านี้ และส่งต่อเรื่องราวดี ๆ ให้กับผู้คนในวงกว้างยิ่งขึ้น

โปรเจคนี้ยังขยายสเกลให้ใหญ่ขึ้นด้วยการพัฒนาพื้นที่แนวราบว่างเปล่ารอการพัฒนาขนาด 11 ไร่ ใน คอมมูนิตี้ T77 บนถนนสุขุมวิท 77 และขนาด 3 ไร่ที่หัวหิน ให้เป็น Green Community ที่ยั่งยืน เปิดโอกาสให้ผู้คนในพื้นที่เมือง ได้สัมผัสบรรยากาศที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ อัดแน่นด้วยออกซิเจน และเต็มไปด้วยประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ดีมีคุณภาพทั้งกายและใจ

Sansiri-backyard-sansiri-blog-1

และนี่จะไม่ใช่เพียงสวนปลูกผักธรรมดา ๆ แน่นอน เพราะสายตาของกรรมการผู้จัดการใหญ่อย่างเศรษฐา ทวีสิน มองว่าหากเสร็จเมื่อไหร่ โปรเจคนี้จะเป็น “สวนหลังบ้าน” ที่ทำให้ทุกคนได้สัมผัสและเข้าใจหลัก 3Gs อย่างลึกซึ้ง และเกิดเป็นคอมมูนิตี้แห่งความสุขทั้งจากการเป็นผู้รับและผู้ให้ให้กับลูกบ้านแสนสิริรวมทั้งผู้คนทั่วไปด้วย

เพราะชีวิตมนุษย์และธรรมชาติคือสิ่งที่ไม่สามารถแยกจากกันได้ แสนสิริจึงมุ่งสร้างสรรค์เพื่อสานฝันในการส่งมอบอ้อมกอดจากธรรมชาติสู่ไลฟ์สไตล์ของผู้คนอย่างใกล้ชิด และกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันให้เป็นจริงได้มากที่สุด

Related Articles

เปิดตำรานอกห้องเรียน รวมผลไม้รสเด็ด ปลูกง่ายได้ประโยชน์

ผลไม้ใครว่าปลูกยาก ถ้าอยากกินต้องได้กิน! งั้นลองมาเดินดูกันได้แบบฟินๆ ที่สวนหลังบ้าน “Sansiri Backyard” ที่ไม่ได้มีดีแค่สวยอย่างเดียว มีผักที่ว่าเริ่ดแล้ว ผลไม้ก็ยิ่งปัง! กลับมาอีกครั้งกับ “เปิดตำรานอกห้องเรียน ภาคสอง วิธีปลูกผลไม้เด็ดๆ” พร้อมเคล็ดลับดีๆ เหมือนเดิมที่เพิ่มเติมกับเมนูจากผลไม้สดๆ ใครยังลังเลที่จะปลูก ลองมาชิมผลไม้สักลูกที่ Sansiri Backyard จะต้องรีบเตรียมตัวหาจอบมาพรวนดินอย่างแน่นอน

sansiri backyard, sansiribackyard, แสนสิริแบ็คยาร์ด

เปิดตำรานอกห้องเรียน ผักชนิดนี้ที่ Sansiri Backyard มีดียังไง?

ดีเกินต้าน กับผักสดๆ จากสวนหลังบ้าน “Sansiri Backyard” มีประโยชน์มากกว่าที่คิด! ผักหลังบ้านที่ดูธรรมดาๆ แต่คุณค่ามหาศาล วันนี้ Sansiri Blog จะพาทุกคนๆ “เปิดตำรานอกห้องเรียน ผักนี้มีดียังไงนะ?” พร้อมกับแนะนำเมนูเพื่อสุขภาพจากผักและสมุนไพร ทำตามได้ง่ายๆ จากวัตถุดิบสดใหม่ที่ Sansiri Backyard สวนผักปลอดสารพิษในทุกๆ

Burasiri Wongwan - Onnut

Sansiri Tree Story จากเรื่องราวของต้นไม้ สู่การส่งต่อคุณค่ายิ่งใหญ่ไม่จางหาย

เพราะคุณค่าของต้นไม้คือส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตของมนุษ์เราบนโลกใบนี้ เมื่อปราศจากต้นไม้ ก็อาจเท่ากับปราศจากชีวิต การเก็บรักษา “คุณค่า” แห่งชีวิตที่ธรรมชาติมอบให้มาอย่างใส่ใจ ให้ยังคงอยู่ตลอดไป จึงเป็นภารกิจที่สำคัญเหนือสิ่งใด ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนก็คงจะเป็นความผูกพันของชีวิตมนุษย์และธรรมชาติที่นับวันจะยิ่งเชื่อมใกล้ชิดกันอย่างที่แยกจากกันไม่ออก  “ธรรมชาติ” ยังคงคอยเข้ามาเติมเต็มการใช้ชีวิตเราให้ให้สมบูรณ์อยู่เรื่อยมาเสมอ ด้วยการยืดหยัดอยู่เคียงข้างมนุษย์ พร้อมมอบคุณค่าอันยิ่งใหญ่ให้ชีวิตเราทุกคน แต่คุณค่าแบบไหนที่ต้นไม้และธรรมชาติมอบให้เรา? คุณค่าแห่งชีวิตที่จะหยั่งรากลึกตลอดไป ในการใช้ชีวิตแต่ละวันของมนุษย์นั้นต้องเผชิญกับสุขและทุกข์อยู่เสมอ แต่เมื่อไหร่ที่ได้นอนเอนกาย หลับตาลงใต้ต้นไม้ใหญ่ กลางสวนสีเขียวผืนกว้าง