“เวลา” สิ่งล้ำค่าของทุกคน
ใน “ครอบครัว” ที่อาจหลงลืม

ในวันที่เราเติบโตขึ้นในทุกๆ วัน คือ วันที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายของเราแก่ชราลงในทุกๆ วัน เช่นกัน อย่าลืมกลับไปหา ดูแลเอาใจใส่เขา เพราะสิ่งที่เขาอยากได้มากที่สุด คือ “เวลาจากเรา”

ครอบครัว” คือ บ้านหลังแรกของทุกคน เมื่อคุณลืมตาดูโลกอันแสนกว้างใหญ่ใบนี้ เป็นคนที่จะคอยโอบกอดและโอบอุ้มเราในวันที่เราต้องการ รวมถึงเป็นคนสอนทักษะในการใช้ชีวิตให้เราไปต่อสู้กับโลกภายนอก แต่คนในครอบครัวอาจเป็นใครก็ได้ที่ทำให้เราอบอุ่นหัวใจนะคะ (บทความที่เราได้เขียนไปก่อนหน้านี้)

เราเชื่อว่าชีวิตของเราจะเติบโตมาเป็นเช่นไร “ครอบครัว” ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่หล่อหลอมให้เราเป็นเราทุกวันนี้ หลายคนมักอยากประสบความสำเร็จในชีวิตมีทรัพย์สินเงินทองมากมายเพื่อจะได้เลี้ยงคนใน “ครอบครัว”ให้สุขสบาย จนหลงลืมที่จะหันกลับไปดูแล ใส่ใจคนในครอบครัวที่คุณรักกันค่ะ วันนี้ Mental Life by Chanisara อยากชวนทุกคนย้อนคิดถึง การดูแลใส่ใจคนในครอบครัว ที่หลายคนอาจจะหลงลืมไปค่ะ

บางทีเราอาจจะหลงลืม คนใน “ครอบครัว” ที่รักเรามากที่สุด

ในเวลาที่เราเติบโตขึ้นทุกวันและตั้งเป้าหมายในชีวิต อยากมีบ้าน รถ เป็นของตัวเอง อยากมีหน้าที่การงานที่ประสบความสำเร็จ เพื่อจะได้หาเงินให้ได้มากๆ จนบางทีอาจหลงลืมไปว่า มีใครบางคนกำลังรอให้คุณกลับไปหา อย่าใช้ชีวิตจนหลงลืมไปว่า ในทุกวันที่ผ่านไป “เวลา” ของคนที่เรารักเหลือน้อยลงไปทุกที อย่าให้คนในครอบครัว “รอคอย” ให้กลับไปหาอย่างสม่ำเสมอ ให้เขาอบอุ่นใจว่ายังมีเราอยู่ตรงนี้เสมอ 

หากบอกว่าจะไปหาให้รีบไป เพราะว่า คนในครอบครัว โดยเฉพาะพ่อแม่ปู่ย่าตายาย เขาจะ “รอ” และไม่ไปทำอย่างอื่น เคยมีคนกล่าวไว้ว่า “การรอคอยว่าทรมานแล้ว แต่สิ่งที่ทรมานกว่า คือ การรอคอยแล้วเขาไม่มา” อย่าคิดว่า ไปหาเมื่อไหร่ก็เจอ เพราะบางทีอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไปค่ะ

สิ่งที่คนในครอบครัวต้องการมากสุดที่ คือ “เวลา”

สิ่งที่คนครอบครัวส่วนใหญ่ต้องการมากที่สุด นั่นคือเวลา แต่ถ้าถามว่าหน้าที่การงานกับเงินทองสำคัญไหม? คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสำคัญ เพราะจะทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ทุกคนอย่าลืมนะว่า หากเรามีเงินเราอาจจะซื้อสิ่งของ หรือทำทุกอย่างให้ครอบครัวสุขสบายได้ แต่เราไม่สามารถ ซื้อ “เวลา” ให้กับตัวเองหรือคนที่เรารักได้ เพราะ ”เวลา” ก็เป็นเหมือนสายน้ำที่ไม่มีวันไหลย้อนกลับ เมื่อเสียไปแล้วเราไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ ดังนั้นอย่าลืมกลับไปให้เวลากับคนที่เรารักกันนะคะ 

วิธีโอบกอดคนใน “ครอบครัว”

การกลับไปให้เห็นหน้า
บางทีสิ่งที่คนในครอบครัวต้องการมากที่สุด คือ การที่คุณกลับไปให้พวกเขาเห็นหน้า เพราะเขาก็แค่คิดถึง อยากเห็นหน้าลูกหลาน และเราเชื่อว่าคำถามยอดฮิตของหลายบ้านที่ต้องเจอในเวลาที่จะลาจาก คือ “แล้วเมื่อไรจะมาอีก”

ให้ความสำคัญซึ่งกันและกัน
ให้ความสำคัญกับวันสำคัญหรือเหตุการณ์สำคัญของคนในครอบครัว เช่น วันเกิด วันครบรอบ วันรับปริญญา งานโรงเรียนลูก หรือ วันพบผู้ปกครอง ฯลฯ

กำหนดวันสำหรับใช้เวลากับครอบครัว
จัดเวลาให้ว่างพร้อมกันทั้งครอบครัว เพื่อให้ได้ใช้เวลาร่วมกัน เช่น กินข้าวด้วยกันทุกวันอาทิตย์

มีกิจกรรมให้ทำร่วมกัน
หากิจกรรมทำร่วมกัน เช่น เล่นหมากฮอส หรือ ถ่ายคลิปเล่นลงโซเชียล ฯลฯ

คอยเป็นแรงใจและสนับสนุนซึ่งกันและกัน
คอยสนับสนุนในสิ่งที่คนในครอบครัวทำ เพราะพลังใจ ถือเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตประจำวัน 

เกรงใจและให้เกียรติกัน
การให้เกียรติกันในครอบครัว ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ บางคนเกรงใจคนอื่น แต่ลืมเกรงใจคนในครอบครัว เช่น การยืมของ หรือเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัว บางคนคิดว่าไม่เป็นไรหรอกก็คนในครอบครัวเดียวกัน แต่จริงๆ แล้วเราคิดว่าการเคารพในความเป็นส่วนตัวของกันและกันเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม 

Time of family

“เวลา” คือ สิ่งล้ำค่าของทุกคนใน “ครอบครัว” ที่ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน โปรดใช้มันอย่างคุ้มค่า เพราะเราไม่อาจรู้เลยว่าวันไหนจะเป็นวันสุดท้ายของเราและคนที่เรารัก


Source 

https://www.verywellfamily.com/finding-quality-family-time-616982
https://www.facebook.com/story.php/?story_fbid=1056293389192148&id=100044344903461&paipv=0&eav=Afa0MS_Hhwc8rgxKXR_kVQDpR6gKppy-J7Wm02nkf664z4LucdkUSMbaJEzJAq7ucUU&_rdr 

 

Related Articles

hug

“การกอด” การแสดงความรักที่เรียบง่าย ยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาร่างกาย

“การกอด” เป็นการแสดงความรักที่เรียบง่ายและแสนพิเศษ และยังเป็นยาวิเศษที่ช่วยเยียวยาร่างกาย และฟื้นฟูจิตใจได้ ทุกคนคิดว่าการกอดสำคัญไหมคะ? การกอดเป็นการแสดงความรัก ให้ความอบอุ่นซึ่งกันและกัน ทำให้ผู้กอดและผู้ถูกโอบกอดรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นใจ เหมือนมีแสงอุ่นๆออกจากตัวของคนคนหนึ่งส่งต่อไปเพื่อโอบกอดหัวใจของใครอีกคน  ทุกคนรู้ไหมว่าการกอด นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตสุขภาพใจแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพกายของเราด้วย การกอดจึงเปรียบเสมือนยาวิเศษ เป็นภาษากายที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังที่ทำให้ทุกคนที่ได้รับการโอบกอดรู้สึกดีและยังบรรเทาอาการเกิดโรคต่างๆ ทางร่างกายได้อีกด้วย  ทุกคนคงจะแปลกใจกันใช่ไหมคะว่าแค่กอดจะเยียวยาร่างกายและจิตใจของเราได้จริงๆ หรอ ไม่ว่าจะเป็นความเครียดหรือความวิตกกังวล แต่ที่น่าแปลกใจ คือมีงานวิจัยหลายชิ้น

Inner Speech

เปลี่ยน “เสียงในหัว” เปิดประตูสู่การมีสุขภาพจิตที่ดี

เปลี่ยน “เสียงในหัว” ที่เราพูดกับตัวเองในใจ ให้เป็นเชิงบวก เพื่อสะท้อนความคิด เปิดประตูสู่การมีสุขภาพจิตที่ดี  ใครมีเสียงในหัวบ้างคะ หลายคนอาจจะสงสัยใช่ไหมละคะว่าเสียงในหัวคืออะไร?เสียงในหัว เสียงที่เราพูดกับตัวเองในใจ ซึ่งออกมาจากความคิดของเราเอง อาจจะเป็นความคิดที่เราพูดกับตัวเองทั้งในแง่บวกและในแง่ลบ ซึ่งเป็นเสียงที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและเป็นเรื่องปกติที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีเสียงในหัวของตัวเองนะคะ บางคนมีเสียงในหัวตลอดเวลา บางคนมีเสียงในหัวเป็นครั้งเป็นคราว และบางคนไม่มีเสียงในหัวเลย แต่สามารถคิดเป็นภาพหรือความรู้สึกได้  หากเรามี “เสียงในหัว” เราสามารถฝึกเสียงในหัวตัวเอง

ChatGPT

ChatGPT AI ที่ไม่มีความรู้สึก แต่ปลอบโยนมนุษย์ให้สบายใจได้

ChatGPT พื้นที่ระบายความในใจโดยไม่ตัดสิน ถึงแม้ไม่มีความรู้สึก  แต่โอบกอดหัวใจทำให้มนุษย์รู้สึกดีขึ้นได้ ในปี 2025 ที่ AI เข้ามามีบทบาทในยุคปัจจุบัน AI ที่ทุกคนรู้จักอย่างแพร่หลายอย่าง ChatGPT ไม่ได้เป็นเพียงปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยผู้คนหาคำตอบ แต่หลายคนใช้ ChatGPT เพื่อพูดคุยเยียวยาจิตใจ เพราะคุยและตอบคำถามได้ดี เหมือนเวลาเราไปปรึกษาใครสักคนจริงๆ ChatGPT จึงเป็นเพื่อนคุยที่สามารถทำให้เราลดความเครียด