ส่งต่อโอกาสทางการศึกษา
ผ่านโครงการ
ZERO DROPOUT

Zero Dropout  เพราะ “การศึกษา” เปรียบเสมือนใบเบิกทางต่อยอดสู่อนาคต แต่กลับมีข้อจำกัดหลายประการ อาทิ รายได้ในครอบครัวไม่เพียงพอ สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการศึกษา เด็กบางคนต้องช่วยที่บ้านทำงานจนเรียนไม่ทัน หรือขาดเอกสารในการยืนยันตัวตน ทำให้ “เด็ก” หลายคนหลุดออกจากระบบการศึกษาและพลาดโอกาสในการทำตามความฝันและพัฒนาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  

 โครงการ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” เป็นสิ่งที่แสนสิริมีความมุ่งมั่นตั้งใจริเริ่มขึ้นเพื่อสร้างความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึงการวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน ด้วย “การระดมทุนจากหุ้นกู้จำนวน 100 ล้านบาท” สนับสนุนการดำเนินงานของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) 

เริ่มด้วยการเริ่มต้น “ราชบุรีโมเดล” เป็นจังหวัดต้นแบบในการช่วยเหลือให้เด็กๆ ได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ก่อนจะขยายผลสู่จังหวัดอื่นๆ และมุ่งสู่นโยบายระดับประเทศอย่าง Thailand Zero Dropout เพื่อแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนหลุดจากระบบการศึกษาให้เป็น “ศูนย์” โดยจะต้องไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการ Zero Dropout คลิก https://siri.ly/vZMBQdB

 เป้าหมายหลักของ “โครงการ Zero Dropout” คือ การสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา ช่วยเด็กหลุดจากการศึกษาให้เหลือศูนย์ และส่งเสริมให้เด็กทุกคนต้องได้เรียน 

ด้วยการเริ่มต้นวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาไทยในในระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยใช้เงินระดมทุนจาก หุ้นกู้แสนสิริจำนวน 100 ล้านบาท ในการสนับสนุนการศึกษาที่ “จังหวัดราชบุรี” นำร่องเป็นโมเดลต้นแบบในระดับจังหวัดเพื่อขยายผลสู่ระดับประเทศ

ปี พ.ศ. 2565 

อนาคตและความฝันของเด็กหลายคนต้องจบลง เพราะไม่มีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษา ซึ่งหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จบลง กลับทำให้ปัญหาเด็กหลุดจากระบบการศึกษายิ่งเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำ “โครงการ Zero Dropout” เพื่อมอบโอกาสให้เด็กทุกคนได้กลับมาเรียนหนังสืออย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 📖

แสนสิริ ออก “หุ้นกู้ระดมทุน 100 ล้านบาท” เพื่อสนับสนุนกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ปั้น “ราชบุรีโมเดล” เป็นจังหวัดต้นแบบแห่งความเท่าเทียมทางการศึกษา โดยตั้งเป้าหมายให้เงินจำนวนนี้เหมาะสมและเพียงพอให้เด็กๆ ได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง 

นอกจากนี้ แสนสิริ ยังร่วมส่งเสริมการพัฒนา “โมเดล 1 โรงเรียน 3 รูปแบบ” ซึ่งเป็นการเรียนแบบยืดหยุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันตามเงื่อนไขของเด็กๆ แต่ละคน ทั้งรูปแบบการเรียนในห้องเรียน การเรียนออนไลน์ และการเรียนตามอัธยาศัย เพื่อเพิ่มการเข้าถึงได้อย่างเสมอภาค 

ปัจจุบันโครงการ Zero dropout ได้ช่วยเหลือเด็กไปแล้วทั้งหมดประมาณ 8,769 คน และ “ราชบุรีโมเดล” ก็ได้ถูกนำไปเป็นแบบอย่างให้กับหลายจังหวัดทั่วประเทศไทยในการติดตามและป้องกันเด็กหลุดจากระบบการศึกษาตามนโยบาย “Thailand Zero Dropout” เด็กทุกคนต้องได้เรียน 

แสนสิริ ยังคงมุ่งมั่นและตั้งใจสานต่อเจตนารมณ์ในการส่งเสริมกิจกรรมด้านการศึกษา สิทธิเด็ก และสังคม เพื่อสนับสนุนความเท่าเทียม ความเสมอภาค รวมถึงสานฝันและอนาคตให้กับ “เด็กๆ” ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีไปจากวันนี้ไปจนถึงอนาคต 

หวังอย่างยิ่งว่าโมเดลโครงการ Zero Dropout จะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่สร้างกระเพื่อนเรื่องความเท่าเทียมและความสำคัญทางการศึกษาและจะไม่มีเด็กคนไหนต้องหลุดจากระบบการศึกษา 

 

CONTRIBUTOR

Related Articles

Zero Dropout

เท็น: เด็กเรียนรู้ด้วยหัวใจ เมื่อห้องเรียนเข้าใจชีวิตจริง

ในประเทศไทย ปัญหา เด็กและเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษา ยังคงเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่อาจมองข้ามได้ จากข้อมูลล่าสุด มีเด็กและเยาวชนอายุ 3–18 ปี มากกว่า 1.02 ล้านคน ที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา เทียบเท่าประมาณ 8% ของเด็กวัยเรียนทั้งหมด  แม้ตัวเลขจะดูน่าห่วง แต่เบื้องหลังคือชีวิตจริงที่ซับซ้อน และเต็มไปด้วยเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัว เช่นเดียวกับเรื่องจริงของ “เท็น

the power of love

“พลังของความรัก” จะทำให้เราจับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้

“พลังของความรัก” จะทำให้เราจับมือกันก้าวผ่านทุกอุปสรรค และเปลี่ยนแปลงชีวิตไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ ทุกคนเชื่อในพลังแห่งความรักไหมคะ ความรักสามารถเปลี่ยนแปลงใครคนหนึ่งให้เป็นคนที่ดีขึ้นได้ แต่ความรักไม่ได้มีเวทมนตร์พิเศษอะไรหรอกค่ะ เพียงแค่ความรักเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้ใครบางคน อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีกว่าเดิมเพื่อใครอีก คน ทำให้รู้สึกว่าตัวเองคู่ควรกับความรัก ความสัมพันธ์นั้น นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมความรักถึงทรงพลัง ความรักยังมีพลังทำให้มนุษย์เราสามารถจับมือก้าวผ่านทุกอุปสรรคที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นจากกลไกลทางจิตวิทยา การสนับสนุนของคู่รัก และวัฒนธรรมในบริบทของสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นคู่รักชายหญิง หรือคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศ  หากย้อนกลับไปในสมัยอดีต ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความรักของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศนั้น

Ready Set Marry

เมื่อรัก คือ รักบนความเท่าเทียม ชีส & รถเมล์

หากลองคิดดูจากผู้คนนับล้านคนจะมีสักกี่คนที่เกิดวัน เดือน ปี เดียวกัน แล้วได้โคจรมาเจอกัน มากกว่านั้นคือได้กลายเป็น “คู่รัก” กัน เช่นเดียวกับคู่ของ “ชีส” – ณัฐฐิยา สงวนศักดิ์ และ “รถเมล์” – ชัญญานุช มะลิมาตร ที่ร่วมกันถักทอเรื่องราวความรักต่างๆ ร่วมกันมาจนจะเข้าปีที่