Happy life ความสุขอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

“ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร เราทุกคนสมควรที่จะมีความสุขในชีวิต

แต่ชีวิตของคนเรานั้นคงต้องมีทั้ง “สุข” และ “ทุกข์” ปะปนกันไป

เหมือนดั่งท้องฟ้าที่บางวันก็สวยสดใส บางวันมืดมนเพราะฝนตก บางวันก็มีพายุเข้า แล้วท้ายที่สุดท้องฟ้าก็จะกลับมาสว่างและสดใสดั่งเดิม

ตลอดชีวิตเราคงต้องเจอทั้ง “ความสุข” และ “ความทุกข์”วนเวียนกันไปอยู่เช่นนี้ เพราะสิ่งเหล่านี้คือธรรมชาติของชีวิต”

happy life

เราเชื่อว่าไม่ว่าเราจะเป็นใคร เราทุกคนสมควรที่จะมีความสุขในชีวิต ความสุขของคนเรานั้นมีความแตกต่างกัน บางคนอาจจะบอกว่าความสุข คือ การมีครอบครัวที่อบอุ่น บางคนอาจจะบอกว่าความสุข คือ การมีฐานะที่ร่ำรวย หรือบางคนมีความสุขกับการได้ทำตามความฝันของตัวเอง ฯลฯ มนุษย์มักตามหาความสุขในชีวิต ทั้งๆ ที่ความสุขขึ้นอยู่กับความพอใจของเราค่ะ ถ้าเราพึ่งพอใจในชีวิตเราก็จะมีความสุข 

ในทางจิตวิทยาของ Maslow ได้ระบุว่าความต้องการสูงสุดในชีวิตมนุษย์ คือ ความสุข ในชีวิต Self-actualization หรือ การพัฒนาศักยภาพเพื่อให้เราสามารถที่จะเป็นได้ในแบบที่เราต้องการ ดังนั้น ความสุขของคนเราจึงไม่เหมือนกัน วันนี้ mental life by Chanisara อยากชวนทุกคนมาย้อนคิดถึงและตั้งคำถามเกี่ยวกับความสุขในชีวิตของเรากันค่ะ

ความสุขขึ้นอยู่กับตัวเราหรือเปล่านะ?

หลายคนอาจเคยได้ยินว่า ความสุขที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาจากตัวเรา แต่ความจริงนั้นเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ดร. เอ็ดการ์ คาบานาส นักจิตวิทยาชาวสเปน ได้กล่าวว่า “ความสุขขึ้นอยู่กับพันธุกรรม 50% ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา 40% และขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม 10%” ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ความสุขส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรมหรือความต้องการมีเพียงแค่ 90% แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ซึ่งส่วนที่เหลืออีก 10% มาจากปัจจัยภายนอก อาจมาจากสภาพความเป็นอยู่ ฐานะทางสังคม รายได้ต่อเดือน พื้นฐานครอบครัวและสังคมที่เราอยู่ ฯลฯ จึงมีคนตั้งข้อสงสัยว่าสภาพแวดล้อมภายนอกที่ทำให้มีความสุขมีเพียงแค่ 10% จริงหรือไม่ 

เริ่มต้นตามหาความสุขด้วยการตั้งคำถาม

คนทุกคนอยากมีความสุข แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าความสุขของเรา คืออะไร? เราจึงอยากให้ทุกคนลองตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่า “ความสุขของเราคืออะไรกันแน่” เพื่อที่เราจะพาตัวเองไปถึงจุดหมายของความสุขที่แท้จริง 

ลองค้นหาความสุขจากสิ่งใกล้ตัว

มนุษย์ตามหาความสุขในชีวิต แต่หลายคนอาจหลงลืมไปว่า ความสุขอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด ลองมองจะสิ่งเล็กๆ ที่เรามี หรือ สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ ไม่ต้องรอให้ได้สิ่งที่ต้องการหรือประสบความสำเร็จในชีวิตก่อนค่อยมีความสุขค่ะ 

เมื่อความสุขกับความทุกข์เป็นของคู่กัน

ทุกคนคงทราบว่า “ความสุข” กับ “ความทุกข์” เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นในชีวิตของเราทุกคน เราเชื่อว่าคนทุกคนอยากให้ตัวเองมีความสุขมากกว่าความทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น แต่ทุกคนเชื่อหรือไม่ว่า ไม่ว่าเราจะเจอ “ความสุข” หรือ “ความทุกข์” เราคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นบทเรียนอันแสนมีค่าให้กับเราทุกคนเสมอ เมื่อเราเรียนรู้และเข้าใจเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตความทุกข์ของเราจะน้อยลงและเราจะมีความสุขมากขึ้นค่ะ

วิทยาศาสตร์ค้นพบความสุข

ใคร ๆ ก็อยากมีความสุข ด้วยกันทั้งนั้น ในทางวิทยาศาสตร์ ได้มีการวิจัยและศึกษาเกี่ยวกับความสุขมากมาย จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

การมีความสุขทำให้เป็นหวัดน้อยลง

ความสุขไม่เพียงแต่ทำให้เราอารมณ์ดีเท่านั้น แต่ความสุขยังเป็นความต้องการของร่างกายจากการวิจัยของวารสาร Psychosomatic Medicine พบว่าหากเรามีความสุขจะทำให้เรามีภูมิคุ้มกันในร่างกายมากขึ้นและทำให้เราเป็นหวัดน้อยลง

การทำดีกับคนอื่นจะทำให้มีความสุข

เมื่อเราทำให้คนอื่นมีความสุข เราจะมีความสุขมากขึ้นเช่นกัน จากการรายงานของสำนักข่าว Huffington Post ว่าการทำความดีเป็นวิธีที่รวดเร็วที่นำมาซึ่งความสุขวิธีหนึ่งและจากการวิจัยหลายชิ้นพบว่า การบริจาคเงินจะทำให้เรามีความสุข

ความสุขถูกกำหนดจากพันธุกรรม 

จากการวิจัยของมหาวิทยาลัย Minnesota พบว่าคนที่เป็นฝาแฝดกันจะส่งต่อความสุขถึงกันและกันได้ครึ่งหนึ่ง 

กลิ่นจากดอกไม้ทำให้เรามีความสุข

จากการวิจัยของมหาวิทยาลัย Rutgers พบว่า การได้กลิ่นดอกไม้จะทำให้มีความสุขเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า 

การได้รับค่าจ้างรายชั่วโมงจะทำให้มีความสุข

จากการศึกษาของวารสาร Personalization and Social พบว่า การได้รับค่าจ้างเป็นรายชั่งโมงทำให้มีความสุขกว่าการรับค่าจ้างเป็นรายเดือน

ความสัมพันธ์ทำให้มีความสุขมากกว่าเงิน

ถึงแม้เงินจะสร้างความสุขได้ จากการวิจัยของ Journal of Socio-Economics ความสัมพันธ์ของคู่รักสุดโรแมนตึกมีค่ามากกว่าเงิน หนึ่งแสนดอลลาร์สหรัฐฯ

คนที่ใส่เสื้อสีสันจะทำให้มีความสุข

ในวารสารารสาร BMC Medical Research Methodology คนที่ใส่เสื้อสีสันจะมีความสุขมากกว่าคนที่ใส่เสื้อสีมืดทึม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ใส่สีเหลือง และยังพบอีกว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวล มักจะใส่ เสื้อสีมืด

ความสุขทำให้ลดความเจ็บปวด

ความสุขเปรียบเสมือน “ยาแก้ปวด”ประโยคนี้ไม่เกินจริง เพราะในปี 2005 จากการศึกษาของวารสาร Journal of Consulting and Clinical Psychology พบว่าผู้หญิงที่ป่วยด้วยโรค ไขข้ออักเสบและมีอาการป่วยเรื้อรัง หากมีความสุขความเจ็บปวดจะน้อยลง

การอยู่ใกล้น้ำจะทำให้มีความสุขมากขึ้น

จากการตีพิมพ์ของวารสาร Global Environmental Change กล่าวว่า เมื่ออยู่ข้างนอกจะทำให้มีความสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่บริเวณใกล้น้ำจะทำให้มีความสุขมากขึ้น

ความสุขส่งต่อถึงกันได้

 จากการศึกษาของวารสาร British Medical Journal พบว่าถ้าเราอยู่ใกล้คนที่มีความสุข เราจะมีความสุขไปด้วย

 ความสุขอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม  10 วิธีสร้างสุขให้ตัวเอง 

1. หัวเราะทุกวัน
2. มองโลกในแง่บวก
3. รู้แบ่งปัน
4.ใส่ใจตัวเอง

5.ใจเย็นให้ไว้
6.รู้จักจัดการความเครียด

7.ให้ความสำคัญกับปัจจุบัน
8.ใช้ชีวิตเรียบง่าย
9. ขอบคุณตัวเอง
10. ยิ้มทุกวัน

ความสุข

ความสุขของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน อยู่ที่ว่าใครต้องการมีความสุขแบบไหน เพียง แค่คุณตามหาความสุขในแบบของคุณให้เจอ เพราะความสุขอาจไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบ แต่ความสุขนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเรา และทุกคนสมควรที่จะมีความสุข “Because you hold the power to happiness.”


source

https://thewisdom.co/content/maslows-hierarchy-of-needs/ 

https://www.bustle.com/articles/169675-11-scientific-facts-about-happiness-that-youll-want-to-know 

https://positivepsychology.com/happiness

https://www.bbc.com/thai/international-59951265 

pic cr.freepik

Related Articles

passion

“ Passion” แรงบันดาลสู่ความสำเร็จ

บางคนอาจจะบอกว่าเราต้องมี “passion” ถึงจะประสบความสำเร็จในชีวิต บางคนบอกว่าคนเราไม่ต้องมี “passion” ก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้  แล้วในความคิดของเพื่อนๆ คิดว่า “passion” สำคัญไหมคะ? สำหรับฉันคิดว่า “passion” คือแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เราไปถึงจุดหมายที่เราต้องการ แต่ในอีกมุมหนึ่ง “passion” ก็เป็นเครื่องบั่นทอนจิตใจเราได้เช่นกัน แต่การมีแรงบันดาลใจมีความหลงใหลในสิ่งที่ทำก็ถือเป็นเรื่องที่ดีในชีวิต วันนี้ mental life

MentalLife-Feature

พลังวิเศษของการท่องเที่ยวเพื่อการชาร์จแบตร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้า

“การท่องเที่ยวเป็นการเยียวยาร่างกายและจิตใจที่เหนื่อยล้า” ใกล้จะเทศกาลสงกรานต์แล้ว บางคนอาจเดินทางกลับบ้านหรือบางคนอาจเดินทางท่องเที่ยว เพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่มีวันหยุดยาวเยอะมากทำให้หลายคนได้หยุดพักอย่างชื่นฉ่ำหัวใจหลังจากเหนื่อยกับการทำงานมาตั้งแต่ต้นปี เพื่อกลับไปชาร์จแบตร่างกายและจิตใจของตัวเองให้กลับมามีพลังในการทำงานและการใช้ชีวิตอีกครั้ง การท่องเที่ยวเป็นอีกวิธีที่ทรงพลังที่ช่วยฮีลใจของเราและยังทำให้ร่างกายของเราแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วยค่ะ หากคุณกำลังรู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน รู้สึกหมดไฟ หรือรู้สึกหมดกำลังใจในการใช้ชีวิต ลองพาตัวเองออกไปท่องเที่ยวใกล้ๆ หรือท่องเที่ยวไกลๆสัก 1 ทริป แค่ออกจากบ้าน ไปเที่ยวในสถานที่แปลกใหม่ เราเชื่อว่าจะทำให้คุณกลับมามีพลังในการใช้ชีวิตอีกครั้งค่ะ วันนี้ Mental Life by

family

“ครอบครัว” อาจเป็นใครก็ได้ ที่ทำให้เราอบอุ่นหัวใจ

“ครอบครัวอาจเป็นใครก็ได้ที่ทำให้เราอบอุ่นหัวใจ” เข้าสู่เดือนเมษากันแล้วนะคะทุกคน เดือนนี้ทุกคนต้องแฮปปี้กันแน่นอน เพราะมีวันหยุดยาวเยอะมาก เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ เดือนที่คนส่วนมากจะเดินทางกลับบ้านไปใช้เวลาอันแสนวิเศษอยู่กับครอบครัวและทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเล่นน้ำสงกรานต์ สังสรรค์ เดินทางท่องเที่ยวหรือกลับไปหาพ่อแม่ปู่ย่าตายายคนที่คุณรักกันค่ะ วันนี้ Mental Life by Chanisara อยากชวนทุกคนย้อนคิดถึงความหมายของ “ครอบครัว”ที่ทำให้คุณอบอุ่นหัวใจกันค่ะ “ครอบครัว” สำหรับ “คุณ” คืออะไร