เพราะการได้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่เปี่ยมไปด้วยการออกแบบที่มีรสนิยมคือความสุนทรีย์อย่างยิ่งในชีวิต
ทุกโครงการภายใต้ Sansiri Luxury Collection จึงถูกรังสรรค์โดยเลือกสรรแรงบันดาลใจจาก Iconic Design ระดับเวิลด์คลาสที่คงความงดงามอย่างเหนือกาลเวลา และหนึ่งในนั้นคือการออกแบบในยุค Regency (ปี ค.ศ. 1811-1837) ที่มีรายละเอียดอันสมบูรณ์แบบ ร่วมเดินทางย้อนไปสู่ช่วงเวลาสั้นๆ ทว่าทรงอิทธิพลอย่างสูงสุด เพราะความรุ่มรวยสวยงามของงานศิลป์แขนงต่างๆ ในยุค Regency นั้นคือที่สุดในบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ แม้ผ่านไปนานนับศตวรรษยังคงความวิจิตรงดงามและเป็นแรงบันดาลใจมาจวบจนปัจจุบัน
หากคุณลองหลับตาจินตนาการถึงวิถีชีวิตที่มีพิธีรีตองตามแบบฉบับราชวงศ์อังกฤษ ปราสาทราชวังที่บริบทแวดล้อมไว้ด้วยการตกแต่งประดับประดาอันละเมียดละไมภายใต้ภาพลักษณ์สุขุมสง่างาม ชวนหลงใหลไปกับเรื่องราวในยุคแห่งความรุ่งเรืองเฟื่องฟูของศิลปะแทบทุกสาขา โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมและงานวิจิตรศิลป์
และอัตลักษณ์ของยุค Regency ในทุกรายละเอียด ได้ถูกนำมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ภายใต้ Sansiri Luxury Collection พื้นที่แห่งการใช้ชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยความรักความอบอุ่น ‘บ้านแสนสิริ พัฒนาการ’ ความภาคภูมิของผู้ครอบครองจากรุ่นสู่รุ่น
ยุคแห่งความรุ่งเรืองเฟื่องฟู ในศิลปะทุกแขนง
ช่วงเวลาสั้นๆ ที่มีความมั่งคั่งทางวัฒนธรรมและศิลปะยุค Regency อยู่ใน ราวรัชสมัยของ King George IV เจ้าชายรูปงามผู้สำเร็จราชการแทน และได้จารึกประวัติศาสตร์ของช่วงเวลาที่ความสุนทรีย์ในวิถีชีวิตผู้คนรุ่งโรจน์ถึงขีดสุด ความวิจิตรงดงามถูกสอดแทรกในวิถีชีวิตอย่างกลมกลืน ทั้งแฟชั่น ดนตรี วรรณคดี จิตรกรรม และสถาปัตยกรรม
บรรยากาศของยุค Regency รายล้อมไปด้วยความน่าหลงใหล นี่คือยุคแห่งกวีโรแมนติก เช่น Wordsworth, Sir Walter Scott และ Shelly ยุคที่ Bethoven กำลังเรียงร้อยท่วงทำนอง เหตุการณ์เหล่านี้เกิดในสมัยของเจ้าชายที่รุ่มรวยด้วยรสนิยม รอบรู้ รูปงามสมนิยาม ‘The first gentleman of England’ ผู้รื่นรมย์กับการใช้ชีวิตอู้ฟู่และหลงใหลในงานศิลป์ชั้นสูง
King George IV ได้มีการอุปถัมป์ศิลปะและสถาปัตยกรรมมากมายที่คงเสน่ห์เหนือกาลเวลา เช่น Royal Pavilion พระราชวังพักผ่อนริมทะเลที่เมือง Brighton การริเริ่มปรับปรุงพระราชวัง Windsor และ Buckingham Palace ที่สง่างามและเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของประเทศอังกฤษจนถึงทุกวันนี้ รวมทั้งยังเป็นยุคที่มีการก่อสร้างถนน Regent Street หัวใจสำคัญของกรุงลอนดอน โดยหลากหลายผลงานสถาปัตยกรรมนั้นถูกรังสรรค์โดยสถาปนิกยอดฝีมือแห่งยุค John Nash
อัตลักษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบฉบับ Regency นั้นเกิดจากอิทธิพลของศิลปะกรีกโรมันคลาสสิก มีความสมมาตรและสัดส่วนที่ให้ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย ให้ความสำคัญกับการออกแบบแสง และพื้นที่ ซึ่งสุนทรียศาสตร์ของ Regency นี้ยังคงความน่าดึงดูดมาจนปัจจุบัน
อัตลักษณ์อันเลอค่า คงความสง่างามเหนือกาลเวลา
จากศตวรรษที่ 18 จนปัจจุบัน บ้านระเบียงในสไตล์ Regency คือสิ่งที่เราพบเห็นอยู่ในหลายพื้นที่ของอังกฤษ จุดเด่นคือความเรียบหรู สง่างาม ตัวอาคารสีขาว หลังคาแบนหรือตื้นจากมุมมองระยะไกล หน้าต่างสูง มอบความภูมิฐานที่ดูน้อยแต่มาก มี Stringcourse เป็นเส้นแบ่งระหว่างชั้น และภายใต้ความเรียบง่ายยังมีชั้นเชิงอันแยบคายของรายละเอียด เช่นโค้งประตูอ่อนช้อย ประดับประดาด้วยเหล็กระเบียงอันละเมียดละไม
ตัวอย่างสถาปัตยกรรมในยุค Regency ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและยังคงสวยงามแม้ผ่านมาเนิ่นนาน เช่น Royal Pavilion ที่เมือง Brighton ผลงานสร้างสรรค์ของสถาปนิกแห่งยุคอย่าง John Nash โดดเด่นด้วยความรุ่มรวยและแปลกใหม่ มีเอกลักษณ์ด้วยอิทธิพลของสถาปัตยกรรมอินเดียและจีน มีการตกแต่งภายในอย่างหรูหราและเปี่ยมไปด้วยจินตนาการชั้นเลิศ
Buckingham Palace พระราชวังอันเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในกรุงลอนดอน แลนด์มาร์กที่สง่างามแต่มากด้วยรายละเอียดอันวิจิตรบรรจง ภายในเต็มไปด้วยคอลเล็กชั่นงานศิลปะสะสมอันประเมินค่ามิได้ ทั้งประติมากรรม พรม ภาพวาด ฯลฯ
Regent Street ถนนสายตำนาน โดดเด่นใจกลางกรุงลอนดอน เรียงรายด้วย Facade ของอาคารในสไตล์ Regency ถนนสายนี้คือหนึ่งในผลงานของ John Nash ที่นำแรงบันดาลใจจาก Royal Crescent of Bath มาตีความใหม่ สร้างสรรค์เป็นถนนอันเป็นภาพจำของคนทั่วโลก และเป็นสัญลักษณ์ของลอนดอนที่ส่งต่อตำนานของ Iconic Design มาถึงปัจจุบัน
สุขุมสง่างาม ภูมิฐานสมนิยาม Regency Style
ความโดดเด่นของยุค Regency อันเป็น Iconic Design ที่เปี่ยมไปด้วยรสนิยมในแบบฉบับชนชั้นสูงของอังกฤษ คือแรงบันดาลใจของบ้านเดี่ยวในโครงการแฟล็กชิพของแสนสิริ ภายใต้ Sansiri Luxury Collection ‘บ้านแสนสิริ พัฒนาการ’ เพียงก้าวแรกก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศของยุค Regency ด้วยซุ้มทางเข้าโครงการซึ่งเป็นงานคราฟท์เหล็กดัดแบบ Low Carbon ลวดลายแสนประณีต ตัดกับเอกลักษณ์ของตัวอาคารสีขาวสะอาดตา ดูสง่างาม เพิ่มความโก้หรูด้วยองค์ประกอบสีดำของประตู หน้าต่าง และโครงเหล็กดัดอันพิถีพิถันบริเวณระเบียง
ทุกรายละเอียดของความเป็น Regency สามารถพบเจอได้ทั่วทั้งโครงการ ตั้งแต่บรรยากาศโดยรอบ ภูมิทัศน์ 360 องศา ไปจนถึงการออกแบบตกแต่งสวนที่งดงามราวกับภาพวาดระดับมาสเตอร์พีซ เพียงทอดสายตาจากสวนจะพบทิวทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ใจด้วยการดีไซน์แบบ Picturesque เห็นภาพทะเลสาปอยู่ด้านหน้า พร้อมสะพานเชื่อมทางเดินระหว่างสระน้ำสองฝั่ง เป็นมุมมองที่ผู้อยู่อาศัยรู้สึกเสมือนได้เสพงานจิตรกรรมชั้นเอกอันมีชีวิตชีวา
อีกหนึ่งศิลปะขั้นสูงอันวิจิตรบรรจง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Iconic Piece แห่งยุครีเจนซี่ คือภาชนะเครื่องเคลือบ Porcelain แบรนด์ Wedgwood Jasperware ที่มีสีฟ้าละมุนอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยได้รับความนิยมในเหล่าราชวงศ์อังกฤษจนได้รับพระราชทานอนุญาตให้ใช้ชื่อว่า Queen’s Ware และแรงบันดาลใจจาก Wedgwood Jasperware ถูกนำมาใช้ตกแต่งภายในบริเวณคลับเฮาส์ 36 Courtyard ของโครงการ เพื่อสร้างบรรยากาศอันรื่นรมย์เสมือนใช้ชีวิตอยู่ในสมัย Regency
นอกจากดีไซน์ที่สวยงามในทุกมุมมอง ยังสามารถสัมผัสความสุนทรีย์ในชีวิตได้ด้วยฟังก์ชันเพื่อการอยู่อาศัยที่ดีที่สุด คลับเฮาส์ 36 Courtyard เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อไลฟ์สไตล์เหนือระดับ ทั้ง Golf Simulator, Fitness by Technogym, Tea Room, Barbeque Area ริมสระว่ายน้ำ รวมถึงบริการที่รองรับทุกความต้องการอย่างเหนือชั้น ทั้ง Quintessentially และ Plus Concierge เติมเต็มให้การใช้ชีวิตสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
ถ่ายทอดความภาคภูมิ สู่โครงการระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่
อัตลักษณ์ของสถาปัตยกรรม Regency คือความสมมาตรตามสัดส่วนอย่างเคร่งครัด และประดับประดาด้วยงานฝีมือชั้นสูง ซึ่งโครงการแฟล็กชิพระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ผลงานจากการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันกว่า 3 ปี ‘บ้านแสนสิริ พัฒนาการ’ ได้ถ่ายทอดความเป็น Regency อย่างไม่ผ่อนปรนในความสมบูรณ์แบบทุกดีเทล
Facade โทนสีขาวตกแต่งสีดำ โครงสร้างแข็งแกร่งสง่างาม แต่ดูอบอุ่นด้วยความโค้งมนของขอบประตู หน้าต่างสูงหรูหราโอ่อ่า ราวบันไดและราวระเบียงอันอ่อนช้อยพาให้สัมผัสถึงกลิ่นอายของความเป็นศิลปะชั้นสูงได้เป็นอย่างดี โครงการได้คัดสรรวัสดุคุณภาพ ของตกแต่ง ตลอดจนงานศิลปะจากทั่วมุมโลก เพื่อแต่งแต้มความตระการตา เช่น วัสดุเลอค่าอย่างหินอ่อน Cipollino Rosso และเฟอร์นิเจอร์ลายไม้มะฮอกกานี
นอกจากความสวยงามแล้วยังมอบการพักผ่อนที่แสนวิเศษ ใส่ใจในทุกดีเทลด้วย ‘His & Her Bathroom’ ที่สามารถใช้งานได้พร้อมกัน แบ่งสัดส่วนพื้นที่เพื่อเพิ่มความสะดวกทั้งของคุณและคนรัก ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยหินอ่อน White Venus สีขาวเรียบหรูบนพื้นและผนัง เติมเต็มบรรยากาศที่มีรสนิยม
The Parlour ฟังก์ชันที่เติมความสุนทรีย์ ให้ผู้พักอาศัยใช้ชีวิตกับสิ่งที่หลงใหลในแบบของตัวเอง ด้วยพื้นที่ระเบียงภายในบ้านที่เชื่อมต่อกับห้องนอนมาสเตอร์ และฟังก์ชั่นประตูบานพับกระจกขนาดใหญ่ที่สามารถเปิดรับทิวทัศน์สวยงามสุดสายตา ถือเป็นพื้นที่สุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อการใช้ชีวิตที่ใกล้ชิดธรรมชาติได้มากขึ้น และยังให้ความเป็นส่วนตัวอย่างสูงสุด
พื้นที่ภายในบ้านถูกดีไซน์อย่างใส่ใจ ด้วยแนวคิด Universal Design ที่คำนึงถึงการใช้งานให้ครอบคลุมสำหรับผู้อยู่อาศัยทุกเจเนอเรชั่น พร้อมด้วยส่วนกลางภายในบ้านอย่าง The Great Room พื้นที่แห่งการใช้เวลาคุณภาพร่วมกันอย่างอบอุ่น กระชับความสัมพันธ์ให้ครอบครัวแน่นแฟ้น
จากยุคอันฟูเฟื่องเรื่องศิลปะในสมัย Regency แรงบันดาลใจถูกส่งต่อยังโครงการบ้านเดี่ยวที่เปี่ยมไปด้วยรสนิยมภายใต้ Sansiri Luxury Collection ผลงานชิ้นเอกแห่งการอยู่อาศัยระดับมาสเตอร์พีซ ‘บ้านแสนสิริ พัฒนาการ’
