สุขภาพของเราทุกคนเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ทุกคนรู้ไหมคะว่าโรคหัวใจนับว่าเป็นโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่มีคนเป็นโรคนี้จำนวนมาก โรคหัวใจมักจะเป็นโรคที่เราอาจจะเป็นโดยไม่รู้ตัว เพราะไม่มีสัญญาณเตือนภัยของโรคที่ชัดเจนนัก หลายคนอาจจะคิดว่า คนที่เป็นส่วนมากจะเป็นคนที่มีอายุมากแล้ว แต่แท้จริงแล้วโรคหัวใจเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แม้กระทั่งคนที่อายุไม่มาก หรืออยู่ในช่วงวัยทำงาน ก็สามารถเป็นโรคหัวใจได้ค่ะ
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ระบุว่า ในปี ค.ศ. 2022 มีการคาดการณ์ว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดคร่าชีวิตผู้คนกว่า 19.8 ล้านคนทั่วโลก โดยกว่า 85% พบว่า มาจากการที่หัวใจวายและเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นถือเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยทีเดียว (ข้อมูลล่าสุด)
สาเหตุการเกิดโรคหัวใจอาจมาจากการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การนอนหลับไม่เพียงพอ การออกกำลังกายหนักจนเกินไป การสูบบุหรี่หรือแม้แต่การที่เรามีความเครียด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดโรคหัวใจโดยไม่รู้ตัว ฯลฯ
วันนี้ Mental Life by Chanisara จะพาทุกคนมาเจาะลึก 5 คำถามที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้เกี่ยวกับโรคหัวใจ ไม่ว่าจะเป็นเจ็บหน้าอกแบบไหนถึงเป็นโรคหัวใจ รู้หรือไม่อกหักก็ทำให้เป็นโรคหัวใจได้ ทำไมทำงานหนัก ออกกำลังกายหนักถึงเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ภาวะ Stroke หรือโรคหลอดเลือดในสมอง มีต้นกำเนิดมาจากโรคหัวใจใช่หรือไม่ และเราจะดูแลตัวเอง ป้องกันตัวเองจากการเป็นโรคหัวใจได้อย่างไรกันค่ะ
Q : เจ็บหน้าอกแบบไหน ถึงจะเป็นโรคหัวใจ
A : รู้สึกแน่น อึดอัด รู้สึกเจ็บหน้าอก บริเวณร่างกายช่วงบน เช่น รู้สึกเจ็บที่ลำคอ ขากรรไกร ไหล่ ฯลฯ หรือหากออกแรงจะเจ็บหน้าอก และ รู้สึกเหนื่อยง่าย
หลายคนคงสงสัยใช่ไหมคะว่าเจ็บหน้าอกแบบไหนกันนะ เพราะอาการเจ็บหน้าอกไม่ได้หมายความว่าจะมีความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้อย่างเดียว แต่เป็นสัญญาณของการเกิดโรคหลายโรคไม่ว่าจะเป็น กรดไหลย้อน โรคแพนิก โรคกระเพาะ โรคปอด ฯลฯ แต่หากจะสังเกตว่าเป็นโรคหัวใจหรือไม่
อย่างแรกเลยจะเจ็บอยู่กลางหน้าอก เหมือนถูกกดทับ หรือรัดหน้าอก หากมีอาการมากจะลามไปถึงบริเวณร่างกายส่วนบน เช่น อาจรู้สึกเจ็บที่ลำคอ ขากรรไกร กราม ไหล่ แขน แต่บางคนอาจจะปวดท้องบริเวณส่วนบนและหลังด้วย หรือหากออกแรง เช่น เดินลงบันได หรือออกกำลังกายหนักๆ จะเจ็บหน้าอก และรู้สึกเหนื่อยง่าย ฯลฯ
Q : รู้หรือไม่อกหักก็ทำให้เป็นโรคหัวใจได้
A : เวลาเราอกหักหรือเสียใจ ส่งผลให้เกิดความเครียด สมองหลั่ง ฮอร์โมนคอร์ติซอลและอะดรินาลีน ออกมามากเกินไป เลือดไปเลี้ยงสมองและร่างกายไม่พอ ทำให้หัวใจล้มเหลวชั่วคราวได้
ทุกคนรู้ไหมคะว่าถ้าคนเราอกหักเสียใจมากๆ อาจจะส่งผลให้เป็นโรคหัวใจได้เลยนะคะ โรคนี้มีชื่อเรียกว่า Takotsubo Cardiomyopathy ถูกค้นพบโดยชาวญี่ปุ่น หรือมีอีกชื่อเรียกว่า “Broken Heart Syndrome” หรือ “ภาวะใจสลาย” หลายคนอาจจะสงสัยว่า แค่อกหักทำไมบางคนถึงมีอาการรุนแรงเช่นนั้น ก็เพราะ เมื่อเราอกหักก็จะเกิดอาการเครียด สมองหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลและอะดรินาลีน ออกมามากเกินไป หัวใจของเราจะเต้นแรง ทำให้สูบฉีดเลือดไม่ดี เลือดไปเลี้ยงสมองและร่างกายไม่เพียงพอ ทำให้หัวใจล้มเหลวได้นั่นเองค่ะ
Q : ทำไมทำงานหนัก ออกกำลังกายหนักถึงเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ
A : เพราะการออกกำลังกายหนัก อาจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหนาขึ้น ส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะอย่างรุนแรง
ทุกคนอาจจะเคยได้ยินว่า หากเราออกกำลังกายมากๆ เราจะแข็งแรงใช่ไหมคะ แต่ทุกคนรู้ไหมหากเราออกกำลังกายหนักเกินไป อาจจะทำให้เราเป็นโรคหัวใจก็ได้ค่ะ เพราะว่าเวลาเราออกกำลังกายหนักมากๆ หัวใจของเราก็จะทำงานหนักไปด้วย ซึ่งส่งผลให้ผนังหัวใจของเราหนาขึ้น ทำให้มีโอกาสที่ระบบไฟฟ้ากล้ามเนื้อหัวใจจะทำงานผิดปกติได้ หากถามว่าระบบไฟฟ้ากล้ามเนื้อหัวใจคืออะไร
ระบบไฟฟ้ากล้ามเนื้อหัวใจคือ ระบบไฟฟ้าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้หัวใจของมนุษย์ทำงานเป็นปกติ แต่หากระบบนี้มีปัญหา จะทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ และทำให้เสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง หรือ Stroke ได้นั่นเองค่ะ
Q : ภาวะ Stroke หรือโรคหลอดเลือดในสมอง มีต้นกำเนิดมาจากโรคหัวใจใช่หรือไม่
A : ภาวะ Stroke มีชนิดเดียวเท่านั้นที่ทำให้เกิดโรคหัวใจ คือ Cardioembolic Stroke เกิดจากลิ่มเลือดในหัวใจ ไปอุดตันหลอดเลือดสมอง
หลายคนอาจจะสงสัยว่า โรคหลอดเลือดสมอง มีต้นกำเนิดมาจากโรคหัวใจใช่ไหม ต้องบอกว่าเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะโดยส่วนมากมาจากการที่เส้นเลือดในสมองตีบ เส้นเลือดในสมองอุดตัน หรือเส้นเลือดในสมองแตกโดยตรงนั่นเองค่ะ
แต่ Stroke ที่เกิดขึ้นจากโรคหัวใจ มีชื่อเรียกว่า Cardioembolic Stroke แล้วทุกคนรู้ไหมว่า ข้อมูลการทบทวนวรรณกรรมของ Ashwin A. Pillai Prasanna Tadi และ Arun Kanmanthareddy ซึ่งเป็นทีมแพทย์และนักวิชาการเกี่ยวกับโรค Cardioembolic Stroke ได้ศึกษาและพบว่า 25% ของคนที่เป็นโรคนี้มีต้นกำเนิดจากลิ่มเลือดหัวใจอุดตัน ซึ่งส่วนมากมักจะเกิดกับคนที่เป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจวาย ลิ้นหัวใจผิดปกติ ฯลฯ
หากถามว่าเกิดขึ้นได้ยังไง ต้องบอกว่า Cardioembolic Stroke เกิดจากลิ่มเลือดที่อยู่ในหัวใจ (โดยเฉพาะห้องหัวใจบนด้านซ้าย) จะหลุดลอยไปตามกระแสเลือดประมาณ 80 % และไปอุดตันหลอดเลือดสมองนั่นเองค่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ncbi.nlm.nih.gov
Q : เราจะดูแลตัวเอง ป้องกันตัวเองจากการเป็นโรคหัวใจได้อย่างไร
A : หลีกเลี่ยงการกินไขมัน ออกกำลังกาย นอนหลับให้เพียงพอ รู้จักรับมือกับความเครียด ไม่สูบบุหรี่ กินปลา ฯลฯ
ทุกคนรู้ไหมว่าการใช้ชีวิตของเราทุกวันนี้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการกิน การนอน ความเครียด การเกิดโรคหัวใจสาเหตุหนึ่งก็มาจากการดำเนินชีวิตประจำวันของเรานั่นเองค่ะ เราทุกคนสามารถดูแลตัวเอง เพื่อให้ห่างไกลตัวเองจากโรคหัวใจได้นะคะไม่ว่าจะเป็น
การหลีกเลี่ยงการกินไขมันทรานส์ อาหารหรือขนมที่มีส่วนผสมของครีมเทียม มาการีน หรือของทอดต่างๆ เพราะหากกินไขมันทรานส์เป็นเวลานานจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจนั่นเองค่ะ
การออกกำลังกายให้เหมาะสม ไม่ออกกำลังกายหนักเกินไป
นอนหลับให้เพียงพอและหลับให้ลึก เพราะถ้าเรานอนไม่พอ เราจะตื่นมาแบบไม่สดใส เนื่องจากสมองและหัวใจของเราไม่ได้พัก รวมถึงความดันเลือดจะลดลง ทำให้เราหน้ามืด เวียนหัว หรือเป็นลมได้
รู้จักรับมือกับความเครียด การมีความเครียดส่งผลให้เกิดโรคต่างๆ ได้หนึ่งในนั้นคือโรคหัวใจ และยิ่งคนที่เสียใจมากๆ หรืออาจจะเสียคนที่รัก หรือคนในครอบครัว ส่งผลให้ประสบกับภาวะซึมเศร้า ซึ่งข้อมูลจากเว็บไซต์โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ผู้ที่มีอาการซึมเศร้าหลังสูญเสียคนที่รักในเดือนแรก จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ 2 – 3 เท่า และผู้ที่มีอาการซึมเศร้าหลังจากนั้นมีโอกาสเป็นโรคหัวใจ 1.5 – 2 เท่าเลยทีเดียวค่ะ
ลดการสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่เสี่ยงต่อการเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
การกินปลา ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดได้ประมาณ 10% เลยทีเดียวค่ะ
ดังนั้น ทุกคนมารักษาสุขภาพของตัวเอง เพื่อป้องกันและห่างไกลจากการเกิดโรคหัวใจกันนะคะ
ยังไงก็ตามทุกคนควรตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี ดูแลสุขภาพเพื่อห่างไกลจากโรคหัวใจค่ะ
Source
https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC10607686/
https://www.phyathai.com/th/article/
https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/anatomy-and-function-of-the-hearts-electrical-system
https://www.bangkokhospital.com/th/bangkok-heart/content/8-lifestyle-changes-to-protect-your-heart
https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK536990/
https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/cardiovascular-diseases-%28cvds%29
TikTok : พี่กลางหอสมุดแห่งชาติ
mayoclinic