เท็น: เด็กเรียนรู้ด้วยหัวใจ
เมื่อห้องเรียนเข้าใจชีวิตจริง

ในประเทศไทย ปัญหา เด็กและเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษา ยังคงเป็นเรื่องใหญ่ที่ไม่อาจมองข้ามได้ จากข้อมูลล่าสุด มีเด็กและเยาวชนอายุ 3–18 ปี มากกว่า 1.02 ล้านคน ที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา เทียบเท่าประมาณ 8% ของเด็กวัยเรียนทั้งหมด 

แม้ตัวเลขจะดูน่าห่วง แต่เบื้องหลังคือชีวิตจริงที่ซับซ้อน และเต็มไปด้วยเงื่อนไขที่แตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัว เช่นเดียวกับเรื่องจริงของ “เท็น – ธนพล ทานะมัย” เด็กหนุ่มวัย 16 ปีจากราชบุรี ที่ครั้งหนึ่งต้องหลุดออกจากโรงเรียน จนในที่สุด โครงการ Zero Dropout – เด็กทุกคนต้องได้เรียน ที่แสนสิริตั้งใจสร้าง”ราชบุรี โมเดล” เพื่อจุดประกายการแก้ปัญหาด้านการศึกษาให้กับสังคม เพื่อให้เด็กทุกคนเข้าถึงการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้เขากลับมามีวุฒิการศึกษา และพร้อมเดินหน้าสู่ฝันในสายอาชีพที่เขารัก

Zero Dropout

คุณแม่กุ้ง สุดารัตน์ คุณแม่ของเท็น เริ่มเล่าเรื่องราวของน้องว่า “เท็นผ่านชั้น ม.1 ขึ้น ม.2 ได้เทอมเดียว แล้วก็หลุดออกจากโรงเรียนไปเงียบๆ ส่วนตัวแล้วแม่คิดว่าน้องมีปัญหาบางอย่างที่โรงเรียน จึงไม่ได้ทัดทานหรือบังคับให้กลับไปเรียน” ส่วนเท็นบอกแค่ว่าเขาเลิกไปโรงเรียนเพราะ ‘เบื่อที่ต้องตื่นเช้าเกินไป’  และกฎระเบียบของโรงเรียน  

แม้จะออกจากโรงเรียน แต่เท็นไม่เคยหยุดเรียนรู้ด้วยตัวเอง เขาชอบมอเตอร์ไซค์มาตั้งแต่ ป.5–ป.6 เขาศึกษาวิธีซ่อม วิธีแต่งรถจากอินเทอร์เน็ต ลองลงมือทำจริง อีกทั้งยังออกไปรับจ้างทำไร่ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระให้กับแม่ ชีวิตเขาจึงเต็มไปด้วยการเรียนรู้ในแบบที่ไม่มีใครเห็น และไม่จำกัดแค่ในห้องเรียน

ศูนย์การเรียน: ห้องเรียนที่ออกแบบเพื่อความหลากหลาย

เพียงไม่กี่เดือนหลังจากเท็นออกจากโรงเรียน ครูพีทจากโรงเรียนมหาราช 7 ก็มาหาที่บ้านของเท็น พร้อมข้อเสนอใหม่: ศูนย์การเรียนสร้างสรรค์การเรียนรู้ จังหวัดราชบุรี คือหนึ่งในกลไกของโครงการ  Zero Dropout – เด็กทุกคนต้องได้เรียน ที่ออกแบบระบบเรียนให้ยืดหยุ่นกับชีวิตจริงของเด็ก โดยเน้นหลักการ เทียบโอนผลการเรียนเดิม + ใช้ประสบการณ์จริงจากงานที่ทำ + จัดทำโครงงานชีวิตหรืออาชีพ เพื่อให้ได้วุฒิการศึกษาตามมาตรฐาน

จุดเด่นคือ เด็กไม่ต้องเข้าโรงเรียนทุกวัน แต่จัดเวลาเรียนได้เองตามความเหมาะสม พร้อมมีวันเจอครูและเพื่อนในกลุ่มอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อแลกเปลี่ยนและทำงานร่วมกัน

“ครูเขามาหาเราแค่ครั้งเดียว พอรู้รายละเอียดก็สมัครเลยครับ” เท็นเผยถึงการตัดสินใจในวันนั้น “เพราะจริง ๆ ผมไม่ได้ไม่อยากเรียนหนังสือ” เมื่อเข้าศูนย์การเรียนฯ ครูเขาก็เอาเรื่องที่ผมสนใจนี้มาเป็นโจทย์งาน ผมก็ได้เรียนเพื่อวุฒิ ม.3 ด้วยการเรียนรู้เรื่องช่างยนต์เป็นหลัก ก็สนุกครับ แล้วมันทำให้เราตั้งใจขึ้น อย่างวันปกติผมก็เรียนผ่านโทรศัพท์ วันอาทิตย์ก็ได้ไปเจอครู” — เท็นเล่า

Zero Dropout

 เมื่อโอกาสกลับมา ฝันก็กลับมา

คุณแม่กุ้งเองก็ยอมรับว่าแรก ๆ กังวลว่าการเรียนทางเลือกจะได้ผลแค่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่ แต่ถ้ามองแค่รูปแบบ เราคิดว่าเรียนแบบนี้ก็ดีที่วันธรรมดาเท็นสามารถไปทำงานได้ ซึ่งเขาก็ไปรับจ้างทำงานในไร่ซึ่งเป็นอีกเรื่องที่สนใจ อาทิตย์หนึ่งก็ไปทำงาน 2-3 วัน ได้เงินครั้งละ 300-400 บาท ตัวเท็นก็บอกว่าเขารู้สึกดีที่สามารถเรียนและช่วยแม่หาเงินไปด้วยได้ แล้วการทำเกษตรก็ยังเป็นสิ่งที่เท็นทำจนรู้สึกชอบ จนเอามาทำต่อที่บ้าน แล้วยังเอาไปใช้ทำ Project จบในหัวข้อเเกษตรอินทรีใหม่อีกด้วย”

ในฐานะนักเรียนรุ่นแรกๆ ของการศึกษาทางเลือก ที่ได้กลับมาสู่เส้นทางการเรียนรู้ผ่าน Zero Dropout เท็นบอกว่า “การเรียนอย่างนี้มีคุณภาพพอ ซึ่งผมมั่นใจว่าวุฒินี้จะทำให้ผมกลับไปเรียนต่อในระบบได้ไม่สะดุด และอยากให้เด็กอีกหลาย ๆ คนที่หลุดจากการศึกษาไปไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตามได้รับโอกาสเช่นเดียวกันครับ”

ส่วนแม่กุ้งทิ้งท้ายว่า “แม่คิดว่าจะเรียนช้าเรียนเร็ว เรียนข้างในหรือนอกโรงเรียน ถ้าสุดท้ายปลายทางคือจบการศึกษาและได้วุฒิ ก็เชื่อว่าจะเป็นทางเลือกที่ทำให้เด็กแต่ละคนเข้าถึงโอกาสเรียนได้ ตามแต่ที่แต่ละคนมีความพร้อม ส่วนสำหรับเท็น ก็อยากให้ลูกตั้งใจเรียนต่อไป เพื่อให้มีวุฒิการศึกษาสูงกว่านี้และได้ทำงานดี ๆ จะได้ไม่ต้องมาลำบากตรากตรำกับงานรับจ้างที่ไม่มีความมั่นคงในชีวิต”

วันนี้ เท็นคือ นักเรียนรุ่นแรกของศูนย์การเรียนสร้างสรรค์การเรียนรู้ จังหวัดราชบุรี ที่เพิ่งรับวุฒิ ม.3 ไปหมาด ๆ พร้อมกับเพื่อนๆอีก 6 คนเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 ที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1และเตรียมจะสมัครเรียนสาขาช่างยนต์ที่วิทยาลัยเทคนิคโพธารามในปีการศึกษาหน้า

ขอขอบคุณน้องเท็น ธนพล ทานะมัย ที่แบ่งปันเรื่องราวชีวิต เพื่อยืนยันว่า พื้นฐานของความแตกต่างหลากหลาย เพราะเด็กแต่ละคนมีชีวิตจริงต่างกัน นี่คือแนวทางการศึกษาทางเลือกที่เปิดประตูให้เด็ก ๆ หลายคนที่หลุดจากระบบเดิมได้กลับมาเรียนอย่างมีคุณภาพ และพร้อมสร้างอนาคตที่ตัวเองอยากเป็นจริง ๆ เพราะที่สุดแล้ว…การเรียนรู้ไม่มีสูตรตายตัว

พี่ๆ แสนสิริและพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ขอแสดงความยินดีกับน้อง ๆ จากศูนย์การเรียนสร้างสรรค์การเรียนรู้ จังหวัดราชบุรี ที่จบการศึกษาและรับวุฒิบัตรเป็นรุ่นแรก และขอเป็นกำลังใจให้น้องๆทุกคน ที่ได้กลับมาเรียนรู้และเดินตามความฝันได้อีกครั้ง  

เพราะเมื่อห้องเรียนเข้าใจชีวิตจริง เด็กก็พร้อมจะเรียนรู้ด้วยหัวใจ

CONTRIBUTOR

Related Articles

ส่งต่อโอกาสทางการศึกษาผ่านโครงการ ZERO DROPOUT

Zero Dropout  เพราะ “การศึกษา” เปรียบเสมือนใบเบิกทางต่อยอดสู่อนาคต แต่กลับมีข้อจำกัดหลายประการ อาทิ รายได้ในครอบครัวไม่เพียงพอ สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการศึกษา เด็กบางคนต้องช่วยที่บ้านทำงานจนเรียนไม่ทัน หรือขาดเอกสารในการยืนยันตัวตน ทำให้ “เด็ก” หลายคนหลุดออกจากระบบการศึกษาและพลาดโอกาสในการทำตามความฝันและพัฒนาสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น    โครงการ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน” เป็นสิ่งที่แสนสิริมีความมุ่งมั่นตั้งใจริเริ่มขึ้นเพื่อสร้างความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ

แสนสิริ กับ 18 ปี แห่งการสร้างรากฐานที่ยั่งยืน เพื่ออนาคตของเด็กทุกคน

SansiriSocialChange ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แสนสิริไม่ได้เพียงแค่สร้างบ้าน แต่เรายังมุ่งมั่นในการสร้างรากฐานสังคมอย่างยั่งยืน ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนโครงการต่างๆ ร่วมกับพันธมิตร พร้อมส่งต่อโอกาสในด้านต่างๆ ทั้งสุขภาพ การศึกษา กีฬา และคุณภาพชีวิต เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างอนาคตที่ดีให้กับ “เด็กทุกคน”  กว่า 18 ปีที่ผ่านมา แสนสิริ ยืนหยัดและผลักดันในประเด็นของสิทธิเด็ก การยุติการใช้ความรุนแรง และการใช้แรงงานเด็ก

“แสนสิริ” เดินหน้า ZERO DROPOUT ชูโมเดลการศึกษา 1 โรงเรียน  3 รูปแบบ “เด็กทุกคนต้องได้เรียน” พัฒนาทุนมนุษย์เคลื่อนเศรษฐกิจ

“แสนสิริหวังว่าโครงการ ZERO DROPOUT เด็กทุกคนต้องได้เรียน นำร่องที่จังหวัดราชบุรี จะจุดประกายให้เห็นกลไกการเปลี่ยนแปลงการศึกษา ขยายผลนำไปใช้ทั่วประเทศ” เพราะทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและธุรกิจ ดังนั้นการสร้าง “ความเสมอภาคทางการศึกษา” ทำให้เด็กไม่หลุดจากระบบการศึกษา เติบโตเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพของประเทศ จึงเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญและเข้ามามีส่วนร่วม โดยบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แถวหน้าของไทย ได้ผลักดันสร้างความเสมอภาคทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง