แม้คนเราจะขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าแรงบันดาลใจนั้นจะต้องสวยงามดั่งผ้าขาว เพราะบางทีการมีโทนสีเทาอ่อนบ้าง สีเข็มบ้าง ก็เป็นแรงผลักดันชั้นดีในสังคมปัจจุบัน ที่เกริ่นมาทั้งหมดนี้เราอยากจะพูดถึงเวที Talk ที่ได้รับความนิยมและเป็นกระแสในช่วงนี้ อย่าง TEDxBangkok กับการแชร์มุมมองความคิดในงาน Creative Talk Conference 2018 ถึงที่มาที่ไป และอะไรที่ทำให้เวทีนี้แตกต่างจากเวทีอื่น รวมถึงเทรนด์การ Talk ในปีนี้จะมีทิศทางต่อไปอย่างไร
Talk ที่น่าสนใจ ท่ามกลางมหาสมุทรแห่ง Talk
ท่ามกลาง Talk มากมาย Talk ที่โดนใจ คุณอรรณวุฒิ ลีไพศาลสุวรรณา มากที่สุด คือ “The Magic Washing Machine” หรือเครื่องซักผ้ามหัศจรรย์ ของอาจารย์ด้านสถิติประชากรในสวีเดน ที่เล่าด้านประชากร โดยการเอาสถิติและเทคโนโลยี มาผสานสู่การนำเสนอว่าปัจจุบันมีคนอาศัยด้วยเงินน้อยกว่า 30 บาทต่อวันกี่คน รวมทั้งที่สำคัญคือสถิติของผู้ใช้เครื่องซักผ้ามีกี่คน โดยเล่าว่าเพราะมีเครื่องซักผ้านี้เอง คุณยายของเขาจึงมีเวลามากพอที่อ่านหนังสือให้เขาฟัง จนทำให้เขาสามารถมาเป็นศาสตราจารย์ได้ดังทุกวันนี้
ส่วน Talk ที่ คุณพิริยะ กุลกาญจนาชีวิน ชื่นชอบมากที่สุด คือ Talk ที่นำไปสู่ Action บางอย่าง อย่าง Talk ที่มีชื่อว่า “How to Use a Paper Towel”หรือ เราจะใช้ทิชชู่กันอย่างไร โดยที่มีคนขึ้นมาบนเวที เอามือจุ่มน้ำ สะบัด 12 ครั้ง แล้วเช็ดมือด้วยกระดาษทิชชู่เพียงแผ่นเดียว เพื่อส่งเสริมการประหยัดทรัพยากร โดยที่ไม่ต้องบอกเป็นตัวเลขสถิติเลยสักนิด
ความคาดหวังที่ซ่อนอยู่ใน Talk
สิ่งที่ทั้งคู่คาดหวังกับ Talk แต่ละครั้งไม่ใช่แค่การสร้างแรงบันดาลใจ แต่เป็นการจุดประกายคำถามที่นำไปสู่การเกิดบทสนทนาที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในพื้นที่อื่น และการสร้างข้อถกเถียงให้บทสทนานั้นดำเนินต่อไป Talk ในแบบ TEDxBangkok จึงไม่ใช่การเอาคนที่ประสบความสำเร็จแล้วมาพูด หรือต่อให้นำมาพูดก็อาจไม่ได้จำเป็นว่าพวกเขาจะต้องแชร์เรื่องที่ตนเองประสบความสำเร็จ นี่จึงนับเป็นการพยายามที่จะเปลี่ยนมุมมองความคิดของคนทั่วไปว่าแท้จริงแล้วคนที่ประสบความสำเร็จ ไม่ได้จำเป็นต้องมาจากคนที่เก่ง ดัง หรือประสบความสำเร็จแล้วอย่างเดียว แต่สิ่งสำคัญจริงๆ เริ่มที่ “ไอเดีย” การคัดเลือก Speaker ของ TEDxBangkok จึงเริ่มด้วยการตั้งคำถามกับไอเดียก่อนเสมอ แล้วค่อยหา Speaker ที่เหมาะสม
อีกสิ่งที่ถูกคาดหวังกับ Talk ก็คือการนำไปสู่ Action ไม่ใช่แค่ Inspiration Talk ที่ไปฟังมาแล้วพรุ่งนี้ตื่นมาก็ลืม และไม่ใช่ Talk ที่ดูออนไลน์ก็ไม่ต่างอะไรกับดูที่บ้านย้อนหลัง แต่เป็น Talk ที่รวมคนที่มีประสบการณ์หรือพบเจอสิ่งที่แตกต่างกันมา ได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แม้จะมีทั้งคนที่ชอบและคนที่เกลียด Talk นี้ แต่ความสวยงามก็เกิดขึ้นจากการพยายามเข้าใจความเห็นที่แตกต่างกับเรา ว่าความคิดเห็นแบบนั้นได้มาอย่างไร
ไม่ใช่แค่ Speaker ที่สำคัญ แต่ Volunteer Team ก็สำคัญ
อาสาสมัครเป็นคนอีกกลุ่มที่ขาดไปไม่ได้สำหรับการเกิด Talk แต่ละครั้ง เพราะความคิดสร้างสรรค์ที่แท้จริง เกิดจากการหลอมรวมความคิดแต่ละคน อาสาสมัครจึงต้องมีความหลากหลาย เช่น อาจมีตั้งแต่วิศวะ เด็กมหาวิทยาลัย บรรณาธิการ ไปจนถึงนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังศึกษาไวรัสก็ได้ แม้ว่าสิ่งนี้อาจก่อให้เกิดการถกเถียงกันสุดฤทธิ์ในกระบวนการทำงาน แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือการสามารถตอบโจทย์คนที่หลากหลายได้มากกว่าเดิมเช่นกัน
ทิศทางของ TEDxBangkok โฉมใหม่ ในปี 2018
ในปี 2018 นี้ TEDxBangkok จะเปลี่ยนโฉมไป จากเดิมที่เคยอยู่แต่บนเวทีใหญ่ ก็จะไม่มีอีกแล้ว โดยทิศทางสำหรับการจัด Talk จะมีลักษณะเปลี่ยนไปหลายๆ อย่าง ตามเทรนด์ที่จะมาปีนี้ ได้แก่
- Deep is More คือ Content จะกระชับขึ้นและสั้นลง แต่เปี่ยมด้วยคุณค่าและลึกซึ้ง เพราะตอนนี้จากข้อมูลใหม่อย่าง “12 is the New 18” หรือระยะเวลาที่ยังดึงความสนใจคนไว้ได้เหลือเพียง 12 นาทีแล้ว จากแต่ก่อนที่คนสนใจอะไรไม่เกิน 18 นาที
Deep is more ก็คือ The Explorer หรือหน้ารวมบทความที่คนสามารถเข้ามาอ่านแล้วเข้าใจสถานการณ์ของแต่ละเรื่องตอนนี้ได้อย่างรวดเร็ว
- Nerd is the New Chic ยุคนี้คนที่ยิ่งเนิร์ดหรือสนใจในเรื่องเล็กๆ เรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ ยิ่งเรียกได้ว่ามีเสน่ห์อย่างมาก และพาเราไปไกลได้มากกว่าที่คิด เพราะสิ่งที่เขาสนใจอาจเชื่อมต่อกับสิ่งอื่นๆ ที่เราทำอยู่ก็เป็นได้
ต่อไป TEDxBangkok จะมี Content Creator มากขึ้น ในแบบที่ลงลึกหรือ “เนิร์ด” ในเรื่องเฉพาะเจาะจงจริงๆ ส่วน Content เองก็จะเฉพาะเจาะจงมากขึ้นด้วยเช่นกัน
- Creativity kills Schools ต่อไปถ้าโรงเรียนยังคงจำกัดและตีกรอบความคิดของเด็ก โรงเรียนจะถูกความคิดสร้างสรรค์ทำลายจนปิดตัวไปเสียเอง เพราะตอนนี้โรงเรียนบางแห่งและครูบางคนเริ่มหาเครื่องมือใหม่ๆ มาปรับให้ตอบโจทย์กับการแสวงหาความรู้และความคิดสร้างสรรค์ของเด็กมากขึ้นแล้ว
เตรียมพบกับ TED-Ed Club ที่จะขโมยเวลาของคาบแนะแนว ไปสร้างพื้นที่ให้เด็กหลังห้องได้มีโอกาสบอกเล่าว่า “ทำไมผมถึงไม่อยากตัดผมเกรียน”
- Actions over Talks เดี๋ยวนี้แค่ Inspiration Talk ธรรมดา ที่จัดแล้วจบไปไม่พอแล้ว แต่ต้องนำไปสู่ Action ด้วย เพราะ “Inspiration without actions is like having no inspiration at all” นั่นคือ แรงบันดาลใจที่เราไม่รู้ว่าจะไปทำไรกับมันได้ แท้จริงเท่ากับการไม่มีแรงบันดาลใจเลย
แทนที่จะมี Talk บนเวทีใหญ่ๆ จะกลายเป็น “TEDxAdventures” หรือ Talk นอกสถานที่แบบย่อยๆ ที่เข้าถึงคนจริงๆ ซึ่งไม่แน่ว่าเร็วๆ นี้ เราอาจจะได้เห็น Speaker ยืนพูดหลังเคาน์เตอร์เชฟในครัวก็เป็นได้
หากสรุปใจความง่ายๆ สำหรับเวที Talk ที่จะมีต่อไป ก็อาจไม่ใช่เวทีใหญ่ๆ ที่จุคนมากๆ แล้วคนมาฟังไม่สามารถโฟกัสได้เต็มที่ แต่จะเป็นเวที Talk ที่พร้อมด้วยคนกลุ่มเนิร์ดหรือกูรูที่หลากหลาย ให้ได้แลกเปลี่ยนมุมมองในเรื่องที่ต่างคนต่างไม่รู้มาก่อน มุมมองที่นอกกรอบแบบเดิมๆ และนี่แหละคือเวที Talk ที่ TEDxBangkok ตั้งใจให้เกิดขึ้นในปี 2018 นี้
สามารถชมวิดีโอย้อนหลังได้ที่ คลิก