ในยุคของ E-Commerce แบบนี้ ไม่ว่าหันไปทางไหน ใครๆ ก็ซื้อของออนไลน์กันทั้งนั้น
จึงไม่แปลกเลยที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์จะกลายเป็นอาชีพยอดฮิต เพราะค่อนข้างมั่นคงและรายได้ดีไม่แพ้งานประจำเลย เผลอๆ ดีกว่าด้วยซ้ำ
อะไรคือสาเหตุที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์กู้ไม่ผ่าน?
แต่ทั้งๆ ที่ยอดขายทะลุเป้าทุกเดือนแบบนี้ ทำไมพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายคนถึงยังกู้ไม่ผ่านในเวลาที่อยากมีบ้านกันล่ะ?
สาเหตุหลักเลย คือหลายคนไม่ได้เก็บหลักฐานการใช้จ่ายของธุรกิจไว้ เช่น ใบสั่งซื้อ หรือบิลต่างๆ ทำให้พิสูจน์ไม่ได้ว่ารายได้มาจากการขายออนไลน์จริงหรือไม่ และอีกหนึ่งสาเหตุ คือการไม่แยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีธุรกิจ ทำให้ธนาคารตรวจสอบ Statement ได้ยาก จนอาจกู้ไม่ผ่านได้
ทีนี้ รู้สาเหตุของการกู้ไม่ผ่านกันแล้ว ต่อไปเราไปดูวิธีเตรียมตัวกู้ซื้อบ้านให้ผ่านฉลุย ในแบบของผู้ค้าออนไลน์กัน!
เตรียมเอกสารกู้ซื้อบ้าน
เริ่มจากการเตรียมเอกสารให้พร้อมกันก่อนเลย โดยพื้นฐานแล้ว เอกสารส่วนตัวต่างๆ ที่ต้องเตรียมจะเหมือนของอาชีพงานประจำเลย แต่ที่ต่างกัน คือผู้ค้าออนไลน์ต้องเตรียมหลักฐานยืนยันรายได้อื่นๆ แทนสลิปเงินเดือน ดังนี้
1. ภาพแคปเจอร์หน้าเว็บไซต์หรือเพจร้านของตนเอง
2. ทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ถ้ายังไม่ได้จด ต้องรีบจดก่อนยื่นกู้ เพราะจะทำให้ธนาคารอนุมัติสินเชื่อง่ายขึ้น
3. ภาพถ่ายของสต็อกสินค้าที่ขายทั้งหมด รวมถึงภาพสถานที่เก็บสินค้า
4. ใบสั่งซื้อสินค้าที่เราซื้อมาขายต่อ ย้ำว่าควรเก็บไว้ทุกบิลใบเสร็จ
5. เอกสารการส่งสินค้าผ่านขนส่ง
6. Statement ย้อนหลัง 6 เดือน ของทั้งบัญชีธุรกิจและบัญชีส่วนตัว
จัดแจงรายได้ให้ชัดเจน
ขั้นตอนต่อมา คือต้องจัดแจงรายได้ให้ชัดเจน ซึ่งเราควรวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนกู้ซื้อบ้าน เพื่อให้ Statement สวยงาม ยื่นกู้ผ่านได้ง่ายขึ้น อันดับแรก อย่างที่บอกไป คือต้องแยกบัญชีของธุรกิจกับบัญชีส่วนตัวก่อน จากนั้นก็ต้องเก็บหลักฐานยอดยืนยันการสั่งซื้อสินค้า รวมทั้งใบเสร็จรับเงิน หลักฐานการโอนเงินของลูกค้าทั้งหมด แนะนำว่าให้เก็บหลักฐานทั้งหมดนี้ย้อนหลัง 6 เดือน
และที่สำคัญ ต้องจ่ายภาษีครบตรงเวลาทุกปี จะได้มีหลักฐานยืนยันกับธนาคารว่าธุรกิจออนไลน์ของเรามีจริง และสรรพากรตรวจสอบได้
กู้ซื้อบ้านในนามบริษัท ต้องทำยังไง?
ผู้ค้าออนไลน์บางคนอาจสนใจการกู้ซื้อแบบนิติบุคคลมากกว่าบุคคลธรรมดา เพราะมีข้อดีคือน่าเชื่อถือกว่า ธนาคารมีโอกาสอนุมัติง่าย และเสี่ยงในการรับผิดชอบในหนี้สินน้อยกว่า เพราะแยกหนี้ของธุรกิจออกจากตัวเจ้าของชัดเจน
ถ้าอยากกู้ซื้อแบบนิติบุคคล ก่อนอื่นเลย ผู้ค้าออนไลน์ต้องจดทะเบียนนิติบุคคลก่อน และนำสำเนาไปยื่นพร้อมเอกสารอื่นๆ และถ้ามีผู้ถือหุ้น ก็ต้องยื่นรายชื่อผู้ถือหุ้นทั้งหมดด้วย แต่การกู้ซื้อบ้านแบบนิติบุคคลก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ คืออาจจะไม่ได้ข้อเสนอดีเท่าแบบบุคคลธรรมดา และอาจต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงกว่า หรือได้ระยะเวลาผ่อนน้อยกว่าได้ ต้องลองเปรียบเทียบเงื่อนไขของธนาคารให้ดีก่อน
ธนาคารไหนเอื้อผู้ค้าออนไลน์บ้าง?
หลังจากเตรียมตัวพร้อมแล้ว ถึงเวลาเลือกธนาคารที่จะยื่นกู้ ซึ่งปัจจุบันนี้ มีหลายธนาคารที่ออกแบบสินเชื่อเพื่อผู้ค้าออนไลน์โดยเฉพาะ อย่างเช่น
1. ธนาคารไทยพาณิชย์
2. ธนาคารออมสิน
3. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
และอย่าลืมว่าก่อนจะยื่นกู้ ต้องเปรียบเทียบเงื่อนไขแต่ละธนาคารกันให้รอบคอบ เพื่อที่เราจะได้ข้อเสนอที่ตอบโจทย์ที่สุดนั่นเอง
เห็นไหมว่าในยุคนี้ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์คืออาชีพที่มั่นคง และสามารถกู้ซื้อบ้านผ่านได้สบาย ไม่ต่างจากงานประจำเลย
และยังมีอีกตัวช่วยดีๆ ที่จะทำให้ผู้ค้าออนไลน์กู้ซื้อบ้านได้ราบรื่น นั่นก็คือ SANSIRI HOME FINANCIAL PLANNER บริการจากแสนสิริ ที่จะคอยเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินให้คุณ และดูแลทุกขั้นตอนการกู้ซื้อบ้าน สนใจสามารถติดต่อเพื่อนัดหมายได้ที่ 1685. หรือ คลิก www.sansiri.com/thai/home-financial-planner